xs
xsm
sm
md
lg

เด็ก ปชป.จี้ กกต.ยึดข้อบังคับคณะก้าวหน้าบริจาคเงิน ปชช.เอื้อประโยชน์พรรคก้าวไกล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ (แฟ้มภาพ)
“ไชยวัฒน์” ข้องใจคณะก้าวหน้านำเงิน 7 ล้านบริจาค ปชช. มีผลประโยชน์ร่วมกันกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ จี้ กกต.ต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะให้เกินข้อบังคับ แถมส่อไม่สุจริต ได้รายชื่อ ปชช.จากการบริจาค

วันนี้ (14 พ.ค.) จากการที่ กกต.วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการให้เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในกรณีพรรคการเมือง การให้ในแต่ละโอกาสเมื่อมีเหตุอันสมควรและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติโดยมีราคาหรือมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วน ส.ส. และผู้ดำรงตำแหน่งในการพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง แจกได้ไม่เกิน 3 แสน ถ้าเกินจำนวนดังกล่าวให้คิดเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น

นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะที่ปรึกษา มท.2 กล่าวว่า ต้องการให้ กกต.พิจารณาถึงกรณีที่แกนนำ “คณะก้าวหน้า” และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำเงินบริจาคกว่า 7 ล้านบาทมาแจกเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 ด้วยว่าคณะก้าวหน้า กับพรรคก้าวไกล มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นกลุ่มคนคณะเดียวกันหรือไม่ แม้ทางคณะก้าวหน้าชี้แจงว่าการแจกเงินคนละ 3 พัน ไม่ใช่เงินของนายธนาธร แต่เป็นเงินที่ได้รับบริจาคมา อย่างไรก็ตาม คณะก้าวหน้าก็เป็นผู้นำมาบริจาคซึ่งเป็นจำนวนเงินรวมเกิน 3 ล้านบาท และเข้าหลักเกณฑ์ตามที่ กกต.ประกาศ จึงอยากให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบด้วย เพราะสิ่งที่คณะก้าวหน้าทำนี้แม้ทำในนามของคณะก้าวหน้า แต่ตนก็มั่นใจว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของพรรคก้าวไกล ดังนั้น กกต.จะต้องบันทึกไว้ว่าเป็นเงินที่จะต้องกำหนดเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งในคราวถัดไป ไม่ว่าจะเลือกตั้งปีไหนก็ตาม ก็ต้องเอายอดเงิน 7 ล้านนี้มากำหนดไว้ว่าพรรคก้าวไกลมียอดค่าใช้จ่ายไปแล้วในจำนวนดังกล่าวด้วย

นายไชยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ในประเด็นนี้หาก กกต.ไม่รับพิจารณา หรือจะอ้างว่าไม่มีการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ ทำให้ กกต.พิจารณาไม่ได้ ตนก็ยินดีจะไปยื่นเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกประเด็นนอกเหนือจากที่ตนได้เคยข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า คณะก้าวหน้าได้รายชื่อประชาชนไปกว่าล้านคนจากการบริจาค ซึ่งก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายไม่สุจริต ดังนั้น เมื่อมีผู้กระทำความผิด กกต.ได้รับทราบเป็นสาธารณะแล้วก็ไม่น่าจะต้องรอให้มีคนไปร้อง เพราะโดยปกติจากการโกงการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อ กกต.พบการกระทำผิดก็สามารถดำเนินการได้ทันทีอยู่แล้ว

นายไชยวัฒน์ระบุว่า หาก กกต.ยืนยันเข้มงวดในแนวปฏิบัติในเรื่องเดียวกันนี้ก็ต้องมีผลบังคับให้ทั่วถึง เพราะ กกต.เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เสมือนศาลเลือกตั้ง ก็ต้องวินิจฉัยกรณีคณะก้าวหน้าด้วย แต่หาก กกต.จะผ่อนคลายมาตรการการคำนวณเงินบริจาค เมื่อ กกต.มีระเบียบว่าไว้ในเรื่องการบริจาคก็ต้องมาวินิจฉัยในกรณีของคณะก้าวหน้า กับพรรคก้าวไกลไว้ก่อน แต่ถ้า กกต.บอกว่าจะการผ่อนคลายมาตรการการคำนวณเงินบริจาคให้ทุกพรรคการเมืองทำได้ ตนก็ไม่ติดใจ เพราะเห็นใจว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ควรได้รับการช่วยเหลือ แต่ถ้าตราบใดที่มีข้อบังคับนี้อยู่ พรรคการเมืองที่เคารพกฎระเบียบก็เสียเปรียบ



กำลังโหลดความคิดเห็น