“ส.ส.สงขลา” ลงพื้นที่ให้ความรู้ป้องกันโควิด ควบคู่ช่วยเหลือเกษตรกรหาตลาดเพิ่ม

“ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี” ส.ส.เขต 4 สงขลา พลังประชารัฐ ลงพื้นที่เยียวยา ปชช.ช่วงโควิด-19 แนะนำเกษตรกรยึดหลัก ศก.พอเพียง พร้อมหาตลาดให้ชาวบ้านได้ค้าขาย-ส่งออกมาเลเซีย

วันนี้ (11 พ.ค.) ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.เขต 4 จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตนและทีมงานได้ลงพื้นที่ตลาดนัด ต.บ่อตรุ อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อให้ความรู้การป้องกันตัวเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมเดินหน้าหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ด้วย โดยพื้นที่คราบสมุทรสทิงพระ ประกอบด้วย 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด, อ.สทิงพระ, อ.กระแสสิน และ อ.สิงหนคร แต่ที่ผ่านมา อ.สทิงพระ มีปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ตนเองในฐานะ ส.ส จึงหยิบยกปัญหาดังกล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯ โดยเสนอการทำแก้มลิง พร้อมประสานให้กรมชลประทานที่เข้ามาสูบน้ำ จัดหาแหล่งน้ำอื่น เช่น แหล่งน้ำจากคลองชะอวดแพรกเมือง มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน


สำหรับปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด ที่ทำให้เกษตรกรขาดทุน และเป็นหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกครัวเรือน นั้น ร.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้เกษตรกร น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้อย่างเป็นระบบ ปรับพื้นที่เพาะปลูก และจัดหาตลาดประเทศเพื่อนบ้าน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มเติม โดยได้หารือกับ พ.ต.ท.สุนิตย์ ห้องชู ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีรู้จักเครือข่ายพ่อค้ามาเลเซีย เพื่อสอบถามถึงความต้องการของตลาด เพื่อให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก ตามโครงการสร้างงานสร้างอาชีพ ตามแนวพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยน้อมนำหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ไร่นาสวนผสม โดยเริ่มนำร่อง ที่หมู่ 1 ต.ตะเครียะ อ.ระโนด พบว่าชาวบ้านก็มีความสุขมากขึ้น จึงเตรียมนำเมล็ดพันธุ์พืชผักที่ประเทศมาเลเซียต้องการ ขยายไปปลูกเพิ่มในอำเภออื่นๆ โดยประสาน กรมพัฒนาที่ดินที่ 12 จ.สงขลา เข้ามาช่วยวางระบบขุดบ่อน้ำจืดในพื้นที่เกษตรกร เพื่อไว้เก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร มั่นใจว่า พื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ จะเป็นแผ่นดินทองในอนาคต

ขณะที่ พ.ต.ท. สุนิตย์ ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน ในการรวบรวมผลผลิตทั้งหมดของเกษตรกร ก่อนจะมีพ่อค้าจากมาเลเชียมารับสินค้าในทุกเย็น กล่าวเสริมว่า ร.ต.อ.อรุณ นอกจากจะเข้ามาให้ความรู้เรื่องโควิด-19 แล้ว ยังได้เข้ามาแนะนำอาชีพให้กับชาวบ้าน พร้อมหาตลาดให้ชาวบ้านได้ค้าขายอีกด้วย ทำให้ชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครพูดถึงเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาลแต่อย่างใด

ด้าน นายสุนธร ไวยภักดิ์ ตัวแทนชาวสวน กล่าวขอบคุณ ร.ต.อ.อรุณ ที่ช่วยตลาดและหาเมล็ดพันธ์มาให้เกษตรกร ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ โดยตัวเองมีพื้นที่ 1 ไร่ ได้แบ่งเป็นบ่อปลา ปลูกพริก ปลูกมะระ และมะเขือ ซึ่งเป็นพืชที่ตลาดมาเลเชียต้องการ ทำให้ทุกวันนี้เก็บผลผลิตได้เดือนละ 10 ครั้งๆละกว่า 1,000 บาท และสามารถจุนเจือครอบครัวได้ในช่วงนี้.