ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล ซัดประกาศแรงงานห้ามลูกจ้างนัดหยุดงานละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง โยงทำไทยถูกมะกันตัดสิทธิ GSP เน้นปกป้องนายจ้าง จี้รัฐเลิกแล้วบังคับใช้ กม.ให้จ่ายเงินเดือน 75% ให้คนถูกเลิกจ้าง บี้เยียวยาทุกคน ให้สัตยาบัน ILO
วันนี้ (11 พ.ค.) นายสุเทพ อู่อ้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีประกาศกระทรวงแรงงาน 6 พ.ค. 63 ที่ห้ามมิให้นายจ้างปิดงาน หรือลูกจ้างนัดหยุดงาน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ในกรณีที่มีการปิดงานหรือนัดหยุดงานอยู่ก่อนวันที่มีประกาศนี้ใช้บังคับ ให้นายจ้างซึ่งปิดงานรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน และให้ลูกจ้างที่นัดหยุดงานกลับเข้าทำงานตามปกติ และข้อพิพาทที่ตกลงกันไม่ได้นั้น ให้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นคนชี้ขาดนั้น ในสถานการณ์ปัจจุบันมีการเลิกจ้างแรงงานเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้ใช้วิธีปิดงานตามกติกาที่กฎหมายกำหนด การเลิกจ้างส่วนมากไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งต้องจ่ายค่าชดเชยที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าแก่ลูกจ้างเป็นเวลา 30 วัน และค่าชดเชยตามอายุงานตั้งแต่ 30-400 วัน หากจะกล่าวแบบภาษาคนทั่วไปก็คือ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
นายสุเทพกล่าวว่า ยังมีนายจ้างที่ได้รับผลกระทบน้อย หรือไม่กระทบเลย ฉวยโอกาสเลิกจ้าง ลดค่าจ้าง ลดสวัสดิการ เปลี่ยนสภาพการทำงาน บังคับลาออก และทำลายสหภาพแรงงาน และฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากโครงการของประกันสังคม โดยแทนที่นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง แต่นายจ้างให้ลูกจ้างไปรับเงินจากประกันสังคมแทน ถือเป็นการเอาเปรียบนายจ้างและลูกจ้างทั้งประเทศที่ส่งเงินประกันสังคมอย่างไม่เป็นธรรม
“สิทธิการรวมตัวต่อรองของลูกจ้างจึงทวีความจำเป็นขึ้นอย่างมากในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างแพร่หลาย การนัดหยุดงานถือเป็นอาวุธสำคัญที่ลูกจ้างใช้ต่อรองกับนายจ้างมาตลอด และในสถานการณ์ปัจจุบันที่แทบไม่มีการปิดงาน มีแต่การเลิกจ้าง ประกาศของกระทรวงแรงงานฉบับนี้ จึงเป็นการแก้ไขไม่ตรงจุด ซ้ำร้าย การลดอำนาจของลูกจ้างนั้น อาจทำให้สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานแย่ลงไปอีก” นายสุเทพกล่าว
ประธาน กมธ.แรงงาน กล่าวว่า การห้ามลูกจ้างนัดหยุดงาน ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งการที่ไทยขาดสิทธิการรวมตัวต่อรองมาอย่างยาวนานนี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทั่วไปทางภาษี (GSP) จากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ต้องเสียภาษีนำเข้ามากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิของประชาชนผู้ใช้แรงงานอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสเริ่มคลี่คลาย จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งรัฐบาลได้ให้กิจการบางส่วนสามารถดำเนินกิจการตามปกติได้แล้วและกำลังพิจารณาให้กิจการอื่นเช่นกัน เหตุใดจึงประกาศออกมาในช่วงเวลานี้ ไม่ประกาศตั้งแต่ที่รัฐบาลปิดเมืองตั้งแต่แรก มีตัวอย่างหลายกรณีในต่างประเทศที่มีการรวมตัวต่อรองประท้วงของประชาชนเชิงสร้างสรรค์ สามารถเว้นระยะห่างทางกายภาพได้เหมาะสม และปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา ได้ออกมาชุมนุมหน้ากระทรวงการคลัง หรือรอของบริจาคตามจุดต่างๆ ถือว่าประชาชนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากความบกพร่องทางนโยบายของรัฐบาล จึงไม่มีความจำเป็นที่จะจำกัดสิทธิของแรงงานแต่อย่างใด
“ผมได้พิจารณาแล้วว่า ประกาศฉบับนี้ออกมาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่นายจ้างมากกว่าปกป้องลูกจ้าง โดยเฉพาะผลประโยชน์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานโดยตรง เพื่อเป็นการตัดปัญหาการจ่ายเงินเยียวยาล่าช้า โดยการลดอำนาจต่อรองของลูกจ้างลง จึงมีข้อเสนอว่า 1. รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องยกเลิกประกาศฉบับนี้ รัฐบาลต้องบังคับใช้มาตรา 75 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานแก่นายจ้างที่ปิดงานทุกราย ให้จ่ายเงิน 75% ของค่าจ้างแรงงาน” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวอีกว่า 2. รัฐบาลต้องเยียวยาประชาชนทุกคนแบบถ้วนหน้า แรงงานทั้งผองไม่ว่าจะในระบบหรือนอกระบบประกันสังคมต้องได้รับโดยเท่าเทียมกัน โดยใช้งบประมาณทางการคลัง แบบเดียวกับที่นานาอารยประเทศทำ ไม่นำเงินของกองทุนประกันสังคมออกมาใช้สร้างชื่อแก่ตนเอง ซึ่งเงินในส่วนนี้ควรจะเก็บไว้เป็นเงินในอนาคตของลูกจ้าง การเยียวยาแบบถ้วนหน้านี้ ยังลดต้นทุนและเวลาการพิสูจน์สิทธิ ยังมีแรงงานที่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากรอการพิสูจน์สิทธิ์อยู่ 3. รัฐบาลควรให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิการเจรจาต่อรอง และฉบับที่ 98 ว่าด้วยการรวมตัวและร่วมเจรจาต่อรอง ซึ่งทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้รณรงค์มาเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว