“สิระ” รุดเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง วอน “บิ๊กตู่” เพิ่มเบี้ยคนพิการ-เพิ่มช่องทางเข้าถึงการรักษาพยาบาล พร้อมย้ำ พปชร.หยุดขัดแย้งได้ เพราะบารมี “ลุงป้อม” เชื่อเป็นคนยึดเหนี่ยว ส.ส.ทุกคนพร้อมทำตาม
วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่หลักสี่ ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งนายสิระได้นำถุงยังชีพ และเงินสดไปมอบให้แก่ครอบครัวของผู้ป่วยด้วย
โดยนายสิระกล่าวว่า ผู้ป่วยติดเตียงทุกคนเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ต้องใช้เงินในการเดินทางไปโรงพยาบาลจำนวนมาก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ยา อาหาร กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถหาเงินได้ในแต่ละวัน บางคนยังดีที่มีครอบครัวดูแล แต่ภาระก็ตกไปอยู่สมาชิกในครอบครัว แต่ผู้ป่วยบางคนไม่มีครอบครัวมาดูแล ยิ่งลำบากหนัก
“เบี้ยพิการ 800-1,000 ที่ทางรัฐมอบให้นั้นต้องยอมรับว่าไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต ผมจึงอยากฝากไปถึงท่านนายกฯ หากเป็นไปได้อยากให้มีการเพิ่มเบี้ยคนพิการให้มากขึ้น และให้พิจารณาแผนความช่วยเหลือระยะยาวให้ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่กระทรวงการพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันทำงานออกมาตรการให้คนเหล่านี้เข้าถึงการรักษาพยาบาลให้สะดวกมากขึ้น เพราะมีหลายคนที่ยอมที่จะไม่ไปรักษาเพราะไม่มีเงินสำหรับการเดินทาง” นายสิระกล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ นายสิระกล่าวว่า สำหรับตนนั้นเชื่อมั่นในประสบการณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ว่าจะนำพาพรรคไปในทางที่ดีและเหมาะสมที่สุด และก็เชื่อว่าสมาชิกในพรรคทุกคนต่างก็เคารพในบารมีของ พล.อ.ประวิตร เพราะ ส.ส.ทุกคนรู้ดีว่าตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ทำงานมา พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ในพรรคที่ติดตาม ดูแล การทำงานของ ส.ส.อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทุกคนสามารถปรึกษา พล.อ.ประวิตรได้ตลอด วันนี้พรรคมี พล.อ.ประวิตรที่ถือว่าเป็นหลักยึดเหนี่ยว ฉะนั้นหากท่านตัดสินใจอย่างไรทุกคนก็ย่อมให้ความเคารพการตัดสินใจของท่านและพร้อมทำตามทุกอย่าง
นอกจากนี้ นายสิระยังแสดงความเห็นถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และฝ่ายค้านเรียกร้องให้ยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่านายจตุพรไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ตนเป็น ส.ส.ลงพื้นที่รับฟังความต้องการของพี่น้องประชาชนตลอด ที่ผ่านมาประชาชนก็ให้ความร่วมมือและยังไม่พบบุคคลใดเรียกร้องให้ยกเลิก และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือว่าเป็นผลดีต่อการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และยังเป็นการทำให้รัฐบาลทำงานได้สะดวกขึ้น ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลกลัวม็อบนั้น ยากให้นายจตุพรกลับไปบอกคนที่จะก่อม็อบว่าที่ผ่านมานายจตุพรเคยโดนอะไรมาบ้าง และต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปกี่รอบแล้ว ถ่วงเวลาไปทำไม ถ้าแน่จริงอย่าเลื่อนนัดศาลอีก ติดคุกก็คือติด ผิดก็คือผิด จะมายุให้รุ่นน้องก่อม็อบถือเป็นนักการเมืองที่ไม่ดี
“รัฐบาลจะเสนอ พ.ร.ก.เงินกู้ เข้าสภาในการเปิดสมัยประชุมที่จะถึงนี้ จึงต้องการขอให้ ครม.พิจารณาเรื่องความเดือดร้อนของผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ก่อนที่จะไปพิจารณาเรื่องการฟื้นฟูบริษัท การบินไทย เพราะยังไม่มีความเร่งด่วน แต่คนพิการซึ่งตอนนี้คนป่วยติดเตียงจะตายกันหลายคนแล้วเพราะว่าไม่มีเงินที่จะดูแลรักษา ก็ขอให้ ครม.เอาเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาก่อนเรื่องการฟื้นฟูการบินไทย” นายสิระกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสิระยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่ง กอ.รมน.ทำโพลสำรวจความเห็นการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าสมควรหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นการรับฟังความเห็นตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็หาว่าเป็นเผด็จการ พอจะรับฟังความเห็นของระชาชนตามระบอบประชาธิปไตยก็มาเรียกร้องขอเหตุผล