นายกฯ นั่งหัวโต๊ะแถลงผลจับกุม 4 เครือข่ายยาเสพติด พอใจผลงาน 3 เดือน ขอบคุณ จนท.ทุกระดับ หวังเห็นผลต่อเนื่อง สั่งตัดวงจรค้ายา-สาวไส้ทรัพย์สินยึดโยงใครลากตัวมาลงโทษให้หมด ชี้เงินไม่มายาไม่เดิน ด้าน “สมศักดิ์” ลั่นยุคนี้ไม่มีฆ่าตัดตอนเหมือนในอดีต
วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถนนดินแดง เขตพญาไท กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการติดตามผลการดำเนินงานด้านการปราบปราม ยึดทรัพย์ และตัดวงจรการค้ายาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส.ร่วม โดยมีผู้บัญชาการตำรจภูธรแต่ละภาคนำเสนอผลการจับกุมมเครือข่ายยาเสพผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เครือข่ายยาเสพติดจำนวน 4 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายนายฟ้าใส (ท้าวโต่น) ไชยะสิงห์ ชาวลาว ตามยุทธการตาปีพิฆาต เครือข่ายนายสุภาพ แซ่ส้ง เครือข่ายนายอิศเรศ จริตงามและพวก และเครือข่าย Mr.Kum Chee Cheong โดยยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ได้จำนวน 2,000 รายการมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านพร้อมที่ดิน 7 รายการ โรงงาน 1 รายการ เงินสด 25.9 ล้านบาท รถยนต์ 400 คัน จักรยานยนต์ 300 คัน ทอง 600 รายการ ปืน 27 กระบอกและอื่นๆ อีกกว่า 400 รายการ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวมอบนโยบายว่า ในนามนายกรัฐมนตรีต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนและทุกระดับในผลการปฏิบัติงานในวันนี้ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้อย่างต่อเนื่องให้ครบทุกมิติ ซึ่งทุกคนคงทราบถึงความสำคัญของรัฐบาลในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร จึงหวังว่าจะได้เห็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัญหายาเสพติดถือเป็นความสำคัญของประเทศเรา ขณะเดียวกัน ขอให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยและระมัดระวังในการทำงานด้วย สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจในเกียรติยศ ชื่อเสียง ที่ทำเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล
“ขอบคุณในความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจและทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ยาเสพติดถือเป็นอันตรายต่อลูกหลานของเรา ต้องขอชื่นชมการปฏิบัติงานขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจ โดยเกียรติยศและชื่อเสียงจะอยู่กับเราตลอดไป ผมก็จะรอฟังผลงานต่อไป วันนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินงานต่อไป ตามมาตรฐานใหม่ที่รัฐบาลบอกไปแล้ว ทั้งด้านความรวดเร็ว ด้านการข่าว ขอให้ทุกคนปลอดภัยและขอให้รักษาความดีไว้ ขอบคุณทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าอีกว่า วันนี้ทุกคนคงเข้าใจแนวทางการปราบปรามยาเสพติดแนวคิดใหม่ ตนยินดีที่มาเป็นประธานแถลงผลการปราบปราม ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด รวมทั้งการฟอกเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว จึงต้องทบทวนว่าที่ผ่านมามีสิ่งใดบกพร่องและต้องพัฒนา หลายอย่างอาจติดขัดข้อกฎหมายและระเบียบขั้นตอนต่างๆ แต่วันนี้ต้องการให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง จึงมีการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาเพื่อให้เกิดการบูรณาการทั้งแผนงาน งบประมาณและบุคลากร ถ้าต่างคนต่างทำก็จะได้ผลปฏิบัติน้อยเกินไปทุกภาคส่วนจึงต้องช่วยกัน วันนี้เป็นผลงานแรกซึ่งเร็วแบบที่ตนต้องการในระยะเวลา 3 เดือนมีผลปฏิบัติในระยะที่ 1
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากผลการจับกุมจะเห็นว่ามีการนำยาเสะติดมาจากแหล่งผลิตภายนอก จึงต้องเร่งดำเนินการเข้มงวดตั้งแต่ต้นทางแหล่งผลิต ส่วนกลางทางพื้นที่ภายในทุกภาค และกระจายสู่ผู้ค้ารายย่อย สิ่งที่ผ่านมาปรับได้เฉพาะผู้ค้ารายย่อยรายจ่ายไม่ค่อยได้ติดตาม อาจมีปัญหาการประสานความร่วมมือต่างๆ จึงต้องแก้ไขไป เพราะฝ่ายผู้ร้ายก็ปรับวิธีการ และที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่ดำเนินการแต่มีการจับกุมดำเนินคดีมากมายโดยเฉพาะการปะทะตามแนวชายแดน แจ่ทำไมยังไม่เข็ดและไม่เลิก จึงต้องย้อนไปดูคนเหล่านี้มีทรัพย์สินยึดโยงใคร เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งวันนี้ที่เห็น เฉพาะ 4 รายแต่ถ้าปราบได้อีกเครือข่ายทั้งหมดจะหายไปเรื่อยๆ เมื่อเงินไม่มายาก็ไม่เดินก็จะเดือดร้อนถึงข้างล่างที่เคยทำอาชีพเหล่านี้ จึงต้องไปตามดู เหมือนการฟื้นฟูและมีแอพพลิเคชั่นติดตาม ไม่เช่นนั้นกลับมาผลิตใหม่ ดังนั้นเราต้องทำครบวงจร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ด้วย จากผลการจับกุมถือเป็นผลงานที่ดีสามารถจับได้จำนวนมาก แต่หากมองในภาพใหญ่ก็ถือเป็นส่วนเดียวเท่านั้น จึงต้องดูทั้งกลางทางและต้นทางด้วย นอกจากนี้จะเห็นว่าปัญหายาเสพติดเกี่ยวข้องกับพื้นที่ภาคใต้ด้วย ซึ่งการแก้ปัญหาภาคใต้ก็ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการแก้ปัญหายาเสพติด ถ้าแก้ปัญหายาเสพติดได้การแก้ปัญหาภาคใต้ก็จะเร็วขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามทรัพย์สินที่ยึดได้ในครั้งนี้อาจมองว่าเป็นจำนวนไม่มาก แต่ที่กระจายในเครือข่ายข้างล่างอีกตั้งเท่าไรต้องยึดให้หมด ใครเกี่ยวข้องยึดหมดตามกฎหมาย แต่ต้องระวังเรื่องสิทธิมนุษยชน ห้ามโดยเด็ดขาด รัฐบาลไม่เคยให้แนวทางเช่นนั้นขอให้เคารพกฎหมายทุกประการ และขอให้ทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ รวมถึงอัยการและองค์กรตรวจสอบก็ต้องทำตามหน้าที่ ตนเป็นรัฐบาลไม่เคยไปก้าวก่ายใครทั้งสิ้น ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ ดังนั้น ขอทุกคนอย่าตกเป็นเครื่องมือคนไม่หวังดีพี่ยังเห็นแก่ได้ สุดท้ายขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเททำงานอย่างเสียสละ ขอให้มุ่งมั่นในการทำงานต่อไปและต้องระมัดระวังทุกเรื่อง หากมีการเรียกรับผลประโยชน์ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด ขอให้ทำงานให้เร็วทำงานเชิงรุก มีแผนเผชิญเหตุ ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และต้องระมัดระวังตัวเองให้ปลอดภัยและประชาชนต้องปลอดภัยด้วย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ป.ป.ส.ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีว่ารัฐบาลนี้ต้องแก้ไขปัญหาไม่ใช่การฆ่าตัดตอนเหมือนรัฐบาลในอดีตแต่จะใช้วิธีการให้เรียบร้อยสิ้นซากโดยการยึดทรัพย์ ที่ผ่านมายอมรับว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่จากการเรียนรู้จากต่างประเทศโดยไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ซึ่งใช้วิธีประเมินจากรายได้จากการค้ายาเสพติด value-based ที่ผ่านมาพร้อมเสนอให้มีการแก้ไขระเบียบสินบนรางวัลคดีฟอกเงินยาเสพติดที่เคยยกเลิกไปแล้ว