xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.ลั่นปิดแน่ร้านค้ายังฝ่าฝืนมาตรการ ย้ำพรุ่งนี้งดเวียนเทียนทุกวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.ฮึ่มร้านค้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการคลายล็อกดาวน์ เตือนก่อนหากยังดื้อโดนสั่งปิด สธ.พร้อมปรับปรุงระบบตรวจให้เข้าที่ พรุ่งนี้วันวิสาขบูชา มส.มีมติงดเวียนเทียนทุกวัด

วันนี้ (5 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 46 ปี อยู่ใน จ.นราธิวาส มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน มีอาการไข้ น้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบเมื่อวันที่ 25 เม.ย. จากนั้นไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งใน จ.นราธิวาส และตรวจพบโควิด-19 ในวันที่ 4 พ.ค. มีประวัติไปร่วมศาสนพิธีในต่างประเทศ และยังมีการสัมผัสในครอบครัว ชุมชน ซึ่งยังต้องหาสาเหตุที่น่าชัดต่อไป ยังไม่เจาะจงสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,988 ราย หายป่วยสะสม 2,747 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่วนกรณีผู้ต้องสงสัย 40 รายติดเชื้อที่ จ.ยะลา ขอให้รอผลอีกสักนิด เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ต้องเก็บตัวอย่างและทบทวนกระบวนการทั้งหมด บ่ายวันเดียวผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมเพื่อหาแนวทางคลายข้อสงสัยให้เห็นถึงมาตรฐานของการปฏิบัติการ ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่ากรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการตรวจเชื้อนั้น เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งตามนโยบายที่ให้เพิ่มปริมาณห้องปฏิบัติการจะต้องเพิ่มคุณภาพไปด้วยกัน แต่ยอมรับว่าการปฏิบัติทุกอย่างมีเรื่องต้องเรียนให้เท่าทันกัน แล็บที่เปิดใหม่กับแล็บที่เปิดมา 3-4 เดือนมีข้อจำกัด แต่ผู้บริหารให้ความสำคัญจึงคิดในหลายระบบ แล็บใหม่อาจต้องตรวจสองแล็บและแล็บอ้างอิงในส่วนกลางเพื่อความมั่นใจของประชาชน ต้องทำทุกอย่างเพื่อความมั่นใจของประชาชน เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าข้อต่อเชื่อมไม่สนิท หลวมเมื่อไหร่จะขับเคลื่อนไม่ได้ เราจะนำข้อห่วงใยไปสู่การพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าสถานที่ที่พบเชื้อมากที่สุด ได้แก่ ในศูนย์กักกัน รองมาคือ การสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า การค้นหาเชิงรุก ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ และสถานที่ชุมชน ขณะที่ปริมาณการตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. มีมากถึง 50,741 ราย พบผู้ติดเชื้อ 767 ราย คิดเป็นความสามารถในการค้นหา 1.51% นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจความคิดของประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ในหัวข้อ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ที่ สธ.ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำการสำรวจประชาชน 99,865 ราย จำนวน 4 ครั้ง ตลอดเดือน เม.ย. ที่ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า พบว่า 99.8% เข้าใจว่าควรทำมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติอย่างไร และ93.8% คิดว่ามาตรการนี้ช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ส่วนพฤติกรรมป้องกันตัวเองของประชาชน พบว่าการใส่หน้ากากอนามัยมีเพิ่มสูงขึ้นและคงที่อยู่ที่ 91.2% การล้างมือด้วยสบู่ เจลแอลกอฮอล์คงที่อยู่ที่ 87.2% ขณะที่การกินร้อนช้อนตัวเอง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 86.1% การรักษาระยะห่างลดลงอยู่ที่ 65.3% ไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก อยู่ที่ 62.9% เราอยากให้ความร่วมมือของประชาชนเกิน 90% ขึ้นไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 3,645,539 ราย เสียชีวิต 252,396 ราย ทั้งนี้ ในวันที่ 5 พ.ค.จะมีคนไทยกลับจากฝรั่งเศส 16 ราย อินเดีย 220 ราย ส่วนที่วันที่ 6 พ.ค. เมียนมาร์ 65 ราย เยอรมัน 110 ราย ปากีสถาน 122 ราย โดยในช่วงระหว่างวันที่ 6-31 พ.ค.มีแผนนำคนไทยกลับประเทศประมาณ 7,000 คน และข้อมูลระหว่างวันที่ 3 เม.ย. - 4 พ.ค.มีผู้อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค 12,385 ราย ในจำนวนนี้พบผู้ติดเชื้อ 84 ราย ขณะที่การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลาย ในวันที่ 4 พ.ค. เข้าตรวจกิจการและกิจกรรมทั้งสิ้น 9,383 แห่ง พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 9,032 แห่ง ไม่ปฏิบัติ 351 แห่ง โดยที่พบฝ่าฝืนมากที่สุดคือ ร้านอาหารที่เข้าตรวจ 3,156 แห่ง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 214 แห่ง คิดเป็น 6.7%

“ที่มีข่าวว่า ศบค.สั่งปิดบางกิจการที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้สั่งปิดแต่อย่างใด ถ้าปิดคงเพราะผิดกฎหมาย เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงปรับพฤติกรรมของผู้ให้บริการ ครั้งแรกจะแนะนำ ถ้ารอบสองยังเหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมอาจถูกสั่งปิด ถ้าไม่อยากให้ถูกสั่ง ก็ขอให้ทำตามมาตรการโดยที่รัฐไม่ต้องไปสั่งหรือกำกับ เพื่อสุขอนามัยของท่านเอง นอกจากนี้ ที่ปรากฎภาพผู้โดยสารรถไฟฟ้าเริ่มหนาแน่นเบียดเสียดกันนั้น อย่างน้อยทุกคนก็ยังใส่หน้ากากอนามัย และฝากผู้ประกอบให้จัดระเบียบพื้นที่ หรืออาจเพิ่มรอบโดยสารเพื่อลดความแออัด หรือใช้ผู้บริการให้เหลื่อมเวลา หรือทำงานอยู่ที่บ้านตามที่รัฐยังสนับสนุนมาตรการนี้”

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับวันวิสาขบูชาในวันที่ 6 พ.ค. ทางมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติเห็นควรให้วัดทุกวันทั้งในและต่างประเทศงดจัดกิจกรรมที่ให้ประชาชนมาร่วมกลุ่มกันทุกประเภท ยกเว้นการปฏิบัติกิจของสงฆ์เท่านั้น โดยให้ปฏิบัติตามมาตรา 9 ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และแนวทางการจัดการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ขอฝากว่า ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเน้นย้ำเสมอว่าตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ 1 รายวันนี้มาจากพฤติกรรมเมื่อ 14 วันที่ผ่านซึ่งเราร่วมมือกัน จึงทำให้ได้ตัวเลขแบบนี้ แต่หลายคนมีความกังวลใจกันมากรวมถึงตนว่าใน 7-14 วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ที่แล้วมาไม่เป็นไร แต่วันนี้ต้องมีสติตลอดเวลา อย่างน้อยที่สุดใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง รวมถึงเวลาออกไปร้านค้าก็ให้ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา คอยแนะนำร้านค้าด้วยไมตรีจิตให้เป็นไปตามมาตรการ เราต้องพึ่งกันและกัน ต้องร่วมมือกัน 100% เพราะจะทำให้เราไม่มีตัวเลขผู้ป่วยอีก ถ้ายกระดับเป็นขั้นๆ เต็มที่คือ 2 เดือนเท่านั้นเราจะปลอดโรคและปลอดภัยกันทุกคน










กำลังโหลดความคิดเห็น