ผบ.ทสส.ลั่นตรวจสถานประกอบ ไม่ปฏิบัติตามปิดทันที ชี้ผ่อนคลายกิจกรรมไม่ใช่ตัวเอง

"บิ๊กกบ" เผย เตรียมส่งชุดสุ่มตรวจสถานประกอบการเข้ม 28 วันจากนี้ พบไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดสั่งปิดทันที ย้ำผ่อนคลายกิจการบางประเภท ไม่ใช่ผ่อนคลายตัวเอง

วันนี้ (3พ.ค.) เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)แถลงว่า วันเดียวกันนี้เป็นวันแรกของการใช้มาตรการผ่อนคลาย แน่นอนว่าจะทำให้ชีวิตทุกคนเปลี่ยนแปลงไป คือ การผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้กิจการบางประเภทที่เคยปิดให้กลับมาเปิดดำเนินการได้ และสองวันที่ผ่านมาเกิดการเดินทางเป็นจำนวนมาก เพราะอาจเกิดความคาดเคลื่อนในการสื่อความหมายของการผ่อนคลาย จากมาตรการที่เคยปิดให้มาเปิดได้ แต่ไม่ใช่ให้เราผ่อนคลายความเข้มงวดที่เคยมีต่อตัวเอง รัฐบาลไม่เคยแนะนำให้เราการ์ดตก เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจแต่อาจจะมีบางคนที่เข้าใจว่า คือการพักผ่อน จึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่าเรายังการ์ดตกไม่ได้

พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการเดินทางไม่ใช่คำแนะนำที่รัฐบาลประสงค์ให้ทุกคนปฏิบัติได้ แต่ยังคงงดหรือลดการเดินทางข้ามเขตจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและต้องแสดงหลักฐาน และเมื่อเดินทางไปแล้วจะต้องเจอกับจุดตรวจเข้มคนของจุดตรวจทั้งหลาย ก็ต้องยอมรับสภาพว่า ทั้งเดินทางไปและกลับจะต้องพบกับความไม่สะดวกเหล่านั้น ในส่วนผู้ประกอบการ ที่ต้องจัดให้มีการดำเนินมาตรการตามหลัก ที่กำหนด คือ 1.จะต้องจัดให้มีการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส 2.ต้องจัดให้ทุกคนในสถานบริการนั้นมีหน้ากาก 3.ต้องจัดให้มีเจลสบู่หรือแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือ 4.จะต้องจัดให้มีจัดมาตรการเว้นระยะ และ5.ต้องทำทุกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในสถานบริการนั้น ฉะนั้นภาระหนักจะตกอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าการกทม.ที่จะต้องจัดทีมลงไปตรวจ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำเป็นคู่มือออกมาแล้ว

พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่ไปตรวจ ให้เป็นไปตามหลักการใหญ่ของการผ่อนคลาย เช่น เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่เดินทางไปซื้อของ ไปร้านค้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีเกรงว่าอาจจะมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดจึงมอบหมายตนไปดู และเมื่อได้ไปสุ่มตรวจในบางซุปเปอร์มาร์เก็ต พบว่าอาจจะมีความคลาดเคลื่อนหรือขาดความพิถีพิถันในการดำเนินการไปบ้าง ซึ่งก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ หากชุดตรวจของฝ่ายความมั่นคงตรวจแล้วพบว่าสถานประกอบการนั้น ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหลักก็ต้องตักเตือน ถ้าไม่ทำอีกก็จะปิด เพราะเป็นความรับผิดชอบต่อคนในภาพรวมไม่ได้ประสงค์ต่อการกันแกล้ง เพื่อให้ทุกคนที่ไปใช้บริการเกิดความมั่นใจว่าสถานที่ที่เข้าไปนั้น ปลอดภัยพอเพียง นี่คือความยืดหยุ่นผ่อนคลาย ส่วนการตั้งจุดตรวจโควิด-19 ลดลงแล้ว เหลือ 312 จุด และจุดตรวจเคอร์ฟิว เหลือ 690 จุด จะไปเพิ่มชุดออกสุ่มตรวจความพร้อมของสถานประกอบการ ที่จะดำเนินการจริงจังเข้มข้นในห้วง 28 วันจากนี้ไป

“ขอย้ำเป็นการผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้กิจการบางประเภทกลับมาเปิดได้ แต่ไม่ใช่เราผ่อนคลายตัวเอง ขอให้การเดินทางไปที่ใดก็ตามของทุกคน คงเป็นไปตามคำแนะนำของรัฐบาล ต้องคงวินัยตัวเองอย่างนี้ตลอดไป ยังไม่ถึงเวลาผ่อนคลาย ดังนั้นถ้าใครเดินทางไปแล้วต้องยอมรับมาตรการที่จะมีการตรวจสอบในการเดินทางขากลับ อย่าไรก็ตาม ขอให้ทำงานอยู่กับบ้าน ทำงานเหลื่อมเวลา ขอให้ยึดหลักเดิมไว้ เพื่อประคองตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ให้น้อยอยู่เช่นนี้” พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว.