ผบ.ทสส.ตรวจซูเปอร์มาร์เก็ต 2 ห้างใจกลางกรุง ขอประชาชนให้ความร่วมมือใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เตือนติดเชื้อโรคโควิด-19 ระลอกสองที่ผ่านมาสูญเปล่า หลัง รบ.ผ่อนปรน สั่ง ศปม.-สตช. จัดชุดตรวจห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เข้มกวดขันการปฏิบัติ
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่สยามพารากอน เขตปทุมวัน กทม. พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เดินทางมาตรวจความพร้อมของแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม เขตปทุมวัน หลังมีการผ่อนคลายมาตรการตามข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร ที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดได้เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น
พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พูนศรี โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ศปม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร จะทำหน้าที่กำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการในการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เข้มข้นในการกวดขันการปฏิบัติ โดยจัดชุดตรวจการดำเนินการของห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืน หรือการกระทำความผิด ให้พิจารณาดำเนินการตามบทลงโทษที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งให้ประสานผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการในพื้นที่เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ เน้นย้ำ และกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดขอความร่วมมือผู้ประกอบการ และเจ้าของกิจการช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป
ทางด้าน พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาตรวจเยี่ยมในนามของหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการความมั่นคง ได้รับมอบหมายให้ดูแลในภาพรวมให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลาย ซึ่งการผ่อนคลายจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) ซึ่งเดินทางที่นี่เป็นการสุ่มตัวอย่าง เพื่อดูความพร้อมของซูเปอร์มาร์เก็ตที่ได้รับการอนุมัติให้เปิดกิจการได้ว่ามีการเตรียมการเพื่อรองรับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการได้ดีเพียงใด และถือโอกาสได้มาดูเพื่อเป็นมาตรฐาน และเพิ่มเติมให้เป็นไปตามมาตรการ โดยห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ได้มีการเตรียมพร้อมที่ดี แต่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมในส่วนของความพอเพียงของอุปกรณ์ทำความสะอาด อาทิ เจลล้างมือ ซึ่งต้องพยายามกระจายให้ผู้ใช้บริการให้มีจำนวนหลายจุด และได้มีการแนะนำในภาพรวมทั่วไป
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติของร้านอาหารนั้น ก็เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งไม่สามารถรับประทานที่ร้านได้ ให้ซื้อกลับไปทานที่บ้านเหมือนเดิม ซึ่งในช่วงนี้ธุรกิจดีลิเวอรีได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีมาตรการให้โทร.สั่งไว้แล้วก่อน แล้วนัดเวลามารับนำกลับไปบ้าน ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรการอยู่แล้ว
“มาตรการผ่อนคลายที่ทางรัฐบาลได้กำหนดขึ้นแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ท่านมีความคาดหวังให้เศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน เป็นปกติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ปัจจัยสำคัญ ก็คือ เราสามารถรักษาระดับไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกรอบ สำคัญที่สุดคือ ให้ประชาชนทุกคนช่วยกันให้ความร่วมมือยังคงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ตามเงื่อนไขที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ไม่ใช่ว่ามีมาตรการผ่อนคลายแล้ว กลายเป็นว่า ทุกท่านไม่ให้ความระมัดระวัง หากมีการแพร่ระบาดอีกครั้งนั้นเป็นการสูญเปล่าแล้วเราจะต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นกับสิ่งที่ผ่านมาอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ต้องช่วยกันในการดูแลตนเองและสังคมส่วนรวมให้ดีที่สุด”