นัดแล้ว “ม็อบออนไลน์ ต้านสารพิษ” รวมพลต่อต้าน คกก.วัตถุอันตราย สุมหัวประชุมพรุ่งนี้ เลื่อนแบนสารเคมีพิษภาคการเกษตร หลัง สภาหอการค้า อ้างวิกฤตโควิด-19 กลัวอาหารขาดแคลน ลั่นอย่าฉวยโอกาสไม่แบนสารพิษ
วันนี้ (29 เม.ย.) จากกรณีที่ คณะกรรมการวัตถุอันตราย นัดประชุมกันวันพรุ่งนี้ (30 เมษายน 2563) เตรียมพิจารณาทบทวนยืดเวลาการแบนพาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส ออกไป จากวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ออกไปเป็น 31 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจะสิ้นสุดลง ตามข้อเสนอของ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้เหตุผลว่า จะผลิตอาหารไม่ทันกับความต้องการ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN), Indy Consumer และภาคีเครือข่าย เชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมออนไลน์ ถ่ายภาพตนเองพร้อมข้อความขึ้นหน้า wall ใส่แฮชแท็กข้อความ #MobFromHome #แบน3สารพิษเดี๋ยวนี้ #ครัวไทยต้องไม่ใช่ครัวโรค #อย่าฉวยโอกาสอ้างโควิดไม่แบน 3 สาร และส่งไปยังทุกช่องทางสื่อสาร ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2563
ทั้งนี้ หน้าเพจของเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ได้โพสต์ข้อความ และตั้งข้อสงสัย 8 ประเด็นพิลึก ถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ดังนี้
1. คุณกลินท์ สารสิน คนที่ร้องเรียนขอให้ใช้ต่อเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งทำจดหมายยืนยันถึงนายกรัฐมนตรีในนามสภาหอการค้า ว่า สนับสนุนการแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด ทำไมกลืนคำพูดตัวเอง ข้อน่าสังเกตคือ จดหมายที่ส่งถึง รมว.อุตสาหกรรม แม้มีหัวสภาหอการค้าฯ แต่ใช้คำพูดเหมือนจดหมายส่วนตัว
2. ในสถานการณ์โรคระบาด ประเทศต่างๆ ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช มาเน้นพืชอาหาร ส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสานให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร อันนี้กลับทำตรงกันข้าม
3. ยาง อ้อย ข้าวโพด ราคาร่วง และน่าจะร่วงยาว เพราะผลของราคาน้ำมันตกต่ำ และผลกระทบโรคระบาดต่อห่วงโซ่การผลิตระดับโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกถดถอยระยะยาว เราก็ควรจะลดการปลูกลง หรือลดต้นทุนโดยลดการใช้สารพิษร้ายแรงลง
4. ขาดแคลนแรงงาน อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะคาดว่าจะมีคนกลับไปภาคเกษตรนับล้านคน ยิ่งควรจะเป็นโอกาสที่จะได้ใช้กำลังแรงงาน+การใช้เครื่องจักรกลในการจัดการวัชพืช
5. กลัวจะไม่สามารถนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง หรือ ข้าวโพด ที่มีพาราควอต ตกค้าง ประเด็นนี้ไม่เคยเป็นประเด็นมาก่อน และไม่เคยมีประเทศไหนทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งอก รวมทั้งสหรัฐฯ หรือสภาหอกการค้า เองอ้างเรื่องนี้มาก่อน กลุ่มสนับสนุนสารพิษยืนยันหัวชนฝาว่าไม่มีปัญหาเรื่องการตกค้าง
6. ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ว่ากันว่าเป็นภัยแล้งครั้งร้ายแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปี หรือบางคนบอกว่ารอบ 50 ปีเลยทีเดียว ปัญหาวัชพืชน้อยลงมาก
7. ไหนก่อนหน้านี้บอกว่ามีสต็อคเหลือเยอะ รัฐไม่อยากรับภาระยึดคืนมาทำลาย เพราะเสียค่าใช้จ่ายสูง ทำไมปล่อยให้นำเข้ามาอีก และ
8. เหตุที่แบน กรรมการก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอันตราย แต่ทำไมกลับปล่อยให้นำเข้า ปล่อยให้ใช้ต่อไปอีก 6 เดือน ซ้ำเติมปัญหาสุขภาพประชาชน เรื่องของเรื่อง คือต้องการเอื้อประโยชน์ผู้ค้าสารพิษ ยื้อการแบนออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบใช่หรือไม่?