“สุชาติ ชมกลิ่น” ย้ำไลน์หลุดผมเป็นลูกผู้ชายพอ หวังช่วย 20 ส.ส.ภาคกลาง พปชร. แก้ปัญหาต่อสู้ไวรัสโควิด-19 รับมี ส.ส.บางส่วนน้อยใจ “หัวหน้า-เลขาฯ” เปรียบพ่อแม่ดูแลลูกๆ ไม่ทั่วถึง พร้อมปัดข่าวเปลี่ยนตัว กก.บก.- ปรับ ครม. ขอมุ่งหน้าแก้วิกฤตชาติก่อนอันดับแรก
วันนี้ (28 เม.ย.) นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดทางเคลียร์ใจหลังมีไลน์หลุดจากกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง จะช่วยเหลือตัวเองหลังหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค พปชร.ไม่ช่วยเหลือลูกพรรค ว่า กรณีไลน์หลุดในฐานะตนเป็นประธาน ส.ส.ภาคกลาง ที่ตั้งกลุ่มไลน์นี้ขึ้น เพื่อให้ ส.ส.ภาคกลาง ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ลงไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักๆ ในวันที่ 1 เม.ย. และถือเป็นเรื่องปกติที่พวกเราเป็นเพื่อนกันอยู่กันแบบพี่น้องพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางรับมือและแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ว่า พรรคและผู้บริหารพรรคจะมีแนวทางอย่างไร เพราะในพื้นที่ของ ส.ส. แต่ละคนถูกกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อในเวลานั้นๆ และ ส.ส. ทุกคนต้องการลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งวันนั้น ส.ส.ภาคกลาง ทุกคนนั้นพอมีเงิน พอมีกำลัง แต่ไม่มีแหล่งซื้อหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ในจำนวนมากๆ ได้ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“วันนั้นมี ส.ส.ภาคกลาง หลายคน ได้ระบายปัญหาเหล่านี้กันมากมาย ผมก็นั่งอ่านจึงเข้าไปตอบไลน์ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคกลาง ซึ่งผมก็ต้องรับผิดชอบ ว่า หากไม่มีใครช่วย พวกเราในวันนี้ เดี๋ยวผมจะช่วยพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนเอง วันนั้นมันเป็นเรื่องของความเป็นลูกผู้ชาย ผมก็นักเลงพอ ต้องมีความรับผิดชอบ เพราะเมื่อเขาไม่ช่วยพวกเรา เราก็ต้องช่วยตัวของเราเอง เพราะการทำการเมืองหนือหน้าที่ของการเป็นผู้แทนราษฎรที่พี่น้องประชาชนเลือกมา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเป็นห่วงพื้นที่ ฉะนั้น ผมและพวกเราที่พอมีช่องทางก็ต้องช่วยกันดูแลพี่ๆ เพื่อนๆ ส.ส.ภาคกลางประมาณ 20 คน ให้ยืนอยู่ในพื้นที่ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้ อีกทั้งในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักๆ ก็เป็นพื้นที่ภาคกลางทั้งนั้นเลย และเราไม่สามารถรอใครได้แล้ว เพราะอยากทำงานอยากออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทันทีด้วยความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน และชาติบ้านเมืองโดยเร็ว และหลังจากไลน์หลุดนายสนธิรัตย์ก็ช่วยเรื่องแอลกอฮอล์ลงมาบ้างถือว่าเป็นสิ่งที่ดี”
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาเรื่องความขัดแย้งกับหัวหน้าและเลขาฯ ตนเห็นว่า หัวหน้ากับเลขาฯนั้น เปรียบเป็นพ่อกับแม่ ลูกๆ มีร้อยกว่าคน มันก็ต้องมีลูกที่มีความอึดอัดน้อยใจเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ และที่ในไลน์ระบุว่าผมไม่เอาด้วยแล้ว เพราะว่าหน้าที่ต้องทำยังไม่รู้ ขออนุญาตอธิบายว่าตนหมายถึงตนไม่ไปคุยด้วยแล้ว เพราะทั้งหัวหน้าและเลขาฯก็ทำงานให้ท่านนายกฯอยู่ในส่วนการแก้ปัญหาฝ่ายรัฐบาลอยู่ เราจึงต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองจะดีกว่าและพยายามคิดในมุมที่ดีว่า ส.ส.ต้องช่วยตัวเองเป็นหลักก่อน
ประธาน ส.ส.พปชร. ยังกล่าวถึงกระแส ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ตามข่าวว่าต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ว่า ส.ส. ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้เลย เพราะยังไม่มีการกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือกำหนดวาระการประชุม ซึ่งยังไม่เกิดขึ้น เพราะว่าทุกพรรคการเมืองอยู่ในโหมดของการแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการประชุม พปชร.จะมีการหารือเรื่องปรับ ครม. หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจและดุลพินิจ ของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว กลาโหม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ และช่วงนี้เป็นเวลาของการแก้ปัญหาโควิด-19 อาจจะยังไม่ควรเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ตนก็เอาเวลาทั้งหมดลงไปทำงานในพื้นที่ชลบุรี ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง และก็ยังไม่เจอและไม่ได้อยู่กับครอบครัวมาเป็นเดือนๆ เพราะว่าต้องอยู่พื้นที่ชลบุรีร่วมกันผลักดัน ชลบุรีโมเดล เพื่อช่วยเหลือประชาชน และวันนี้ชลบุรีโมเดลอำเภอเมืองชลบุรี ก็ไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มมา 28 วันแล้ว นี้คือ สิ่งที่ผมและเพื่อนๆ ที่เป็น ส.ส. ทุกคนในพรรคพลังประชารัฐต้องการ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้ผ่านพ้นวิกฤตชาติครั้งนี้ ไปให้ได้สมบูรณ์ และร่วมกันแบ่งเบารัฐบาล และเตรียมการเยียวยาชาวบ้านหลังจากนี้ด้วย
