รองเลขาฯ กมธ.ท่องเที่ยว ระบุ “น้องบิ๊กตู่” อาสาร่วม กมธ.เอง ไม่มีใครตั้ง ต้องให้ความเป็นธรรมนายพลในคณะ ทำงานด้านนี้กันมานานแล้ว ขอให้ดูโปรไฟล์ มีผลงานแต่ไม่เคยไปโปรโมต
วันนี้ (17 เม.ย.) พล.อ.บุญธรรม โอริส รองเลขานุการคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว ชี้แจงถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การแต่งตั้ง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และ น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น กรรมาธิการท่องเที่ยว ว่า สืบเนื่องจากมีตำแหน่งในกรรมาธิการว่างลง พล.อ.ปรีชา จึงอาสาเข้ามาทำงานในคณะกรรมการชุดนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้มีใครตั้งใคร แต่เป็นการสมัครใจเข้ามาทำงาน เนื่องจากวิธีการเลือกคณะกรรมาธิการ คือ เอาคนที่สมัครใจและมีทักษะ ในด้านนี้มาแล้ว ซึ่งกรรมาธิการคนหนึ่ง สามารถเลือกทำงานได้ 2 คณะ เช่น ของตน เลือกการบริหารราชการแผ่นดิน กับ และการท่องเที่ยว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีอดีตนายทหารหลายคนนั่งเป็นคณะกรรมการท่องเที่ยว พล.อ.บุญธรรม กล่าวว่า คณะกรรมชุดนี้ มีทั้งหมด 19 คน 14 คน เป็น สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอีก 5 คนเป็นพลเรือน โดยทั้งหมดมีความรู้ความสามารถ และคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว ทำงานกันมานานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมี เพียงแต่ว่า พอมี พล.อ.ปรีชา เข้ามาเป็นกรรมธิการอีกคน ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับ 12 นายพล ที่นั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวด้วย อยากให้ไปดูโปรไฟล์ของแต่ละท่านว่าผ่านงานอะไรมาบ้าง แต่ละท่านเป็นคนเก่งและมีประสบการณ์ในส่วนของตน ทำงานด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2550 เป็นกรรมาธิการการท่องเที่ยวสภา ช่วงที่ยังไม่มีรัฐประหารมาด้วยซ้ำ ทุกท่านมีองค์ความรู้ เราทำงานปิดทองหลังพระตลอด
พล.อ.บุญธรรม ยังกล่าวอีกว่า เรามีหน้าที่ติดตามเร่งรัด ตรวจสอบ เสนอแนะฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เรื่องเร่งรัดการปฏิรูปประเทศช่วง 5 ปีแรก เพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ 10 ปี ที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่เมื่อเกิดปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เราต้องปรับเปลี่ยนการทำงานใหม่ด้วยการเสนอรัฐบาลว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้การท่องเที่ยวสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เราประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์กันทุกวัน โดยที่ผ่านมาเราเสนอแนะไปหลายเรื่อง ทั้งการใช้งบประมาณเพื่อไปดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หรือแม้แต่กระทั่งไม่เห็นด้วยในการที่รัฐบาลกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เราอยู่เบื้องหลังการทำงานทั้งหมด แต่ไม่เคยไปโปรโมตตนเอง และการทำงานแต่ละครั้ง ไม่เคยมีเบี้ยเลี้ยง หรือ งบประมาณ เราใช้เงินเดือนของแต่ละคน