“แรมโบ้” แจงเอาผิด “อดิศร” ให้มีวุฒิภาวะ หลังเขียนกลอนหยาบ ตัดต่อภาพนายกฯ

“สุภรณ์” แจง เหตุดำเนินคดีโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน เขียนกลอนใช้คำหยาบ ตัดต่อภาพนายกฯ ให้ลูกเพจด่า สร้างความแตกแยก ซัดเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่อดีต รมต. เอาผิดให้มีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้าง

วันนี้ (16 เม.ย.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจาก คุณอดิศร ได้เขียนบทกลอนใช้คำหยาบคายและตัดต่อภาพ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ในเพจของคุณอดิศร มีสมาชิกในเพจต่อว่าต่างๆ นานาในทางเสียหายต่อท่านนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ ซึ่งนายอดิศรถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะสูง ไม่ควรกระทำเช่นนี้อย่างยิ่งถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

นอกจากนี้ ในภาพที่ปรากฏในบทกลอนของนายอดิศรนั้น ยังเป็นภาพตัดต่อที่นำภาพศีรษะ ของ พลเอก ประยุทธ์ นายกฯไปตัดต่อกับภาพของ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ซึ่งกำลังรดน้ำขอพร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัย ปี 2556

ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นพฤติกรรมตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนและประชาชน นายอดิศร เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย เป็นอดีต ส.ส.มายาวนาน และปัจจุบันเป็นโฆษก นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง นายสมพงษ์ ถือเป็นผู้ใหญ่ที่ควรยกย่องชมเชย ท่านให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ต่อรัฐบาล

“แต่สิ่งที่นายอดิศรเป็นถึงอดีตรัฐมนตรี เป็นถึงโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภา รับเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชน แต่กลับมีวุฒิภาวะเช่นนี้ มาใช้บทประพันธ์ บทกวี อาจสร้างความแตกแยก และจนกระทั่งคนใน Social หลายๆ คนวิพากษ์วิจารณ์ ท่านนายกรัฐมนตรี และตนเอง ในเพจของคุณอดิศรทำให้เกิดความเสียหายไม่เหมาะไม่ควร ซึ่งในภาวะบ้านเมืองวิกฤตหนักจากไวรัสร้ายเช่นนี้ ทางรัฐบาลท่านนายกฯได้ขอความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ จาก ส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หยุดเล่นทางการเมืองและหันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากไวรัสร้ายนี้ให้ได้ แต่เหตุใดนายอดิศร จึงคิดไม่ได้ และควรจะมีสติปัญญาความเป็นผู้ใหญ่ตั้งใจใช้วุฒิภาวะในการที่จะทำให้บ้านเมืองก้าวผ่านการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ร่วมกันไปให้ได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้คลายความทุกข์ ไม่ใช่มาสร้างความขัดแย้งทางการเมือง หรือทะเลาะกันเอง การที่ตนไปแจ้งความในครั้งนี้ หากตนไม่ดำเนินการใดๆ นายอดิศร จะเขียนบทกวีโจมตีรัฐบาล นายกรัฐมนตรีและตนเองตลอดมาอยู่เรื่อยๆ ไม่หยุด ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยแต่งกลอนด่าว่าหลายครั้งหลายครา ตนไม่เคยถือโทษโกรธเคืองอโหสิกรรมให้ตลอด ยิ่งตัวท่านนายกรัฐมนตรีท่านเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจึงไม่มีเวลาที่จะมาคิดทะเลาะหรือขัดแย้งกับนักการเมืองคนใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่า เพื่อทุ่มเทแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนให้ผ่านไปให้ได้ แต่ครั้งนี้เกินไปจริงๆ ตนจำเป็นต้องดำเนินคดี คุณอดิศรจะได้มีบทเรียนมีจิตสำนึกมีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้าง ว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองประชาชนเดือดร้อนเช่นนี้นายอดิศรฯสมควรกระทำหรือไม่” นายสุภรณ์ กล่าว