MGR Online - “แรมโบ้อีสาน” นำหลักฐานจากเฟซบุ๊ก “Adisorn Piengkes” โพสต์ภาพตัดต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนถูกชาวเน็ตรุมต่อว่า แจ้งความดำเนินคดี “อดิศร เพียงเกษ” สร้างความแตกแยกในสังคม ไม่รู้จักกาลเทศะบ้านเมืองอยู่ช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่มาทำลายขวัญกำลังใจคนทำงาน
วันนี้ (15 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมงานฝ่ายกฎหมาย เดินทางมาพบ พ.ต.อ.อธิป พงศ์ศิวาภัย รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุญยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. พ.ต.อ.ธราธิป รังรักษ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. และ ร.ต.อ.หญิง ศศิพันธ์ คงเอียด รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หลังโพสต์ลักษณะหมิ่นประมาทและตัดต่อภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความเสียหายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายสุภรณ์กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานเป็นภาพจากเฟซบุ๊กของนายอดิศร ใช้ชื่อว่า “Adisorn Piengkes” ซึ่งโพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 63 เวลา 18.21 น. และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากโจมตี วิจารณ์ตนและนายกรัฐมนตรี ในทางเสียหาย ทั้งนี้ ถ้าไม่มาแจ้งความดำเนินคดีนายอดิศรก็จะมีคนมาด่าทอต่อว่าไปเรื่อยๆ จึงต้องมาเอาผิดให้เข็ดหลาบ ไม่เช่นนั้นจะไม่หยุดพฤติกรรมลักษณะนี้ และไม่ควรสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า การเป็นนักการเมืองต้องรู้จักเสียสละและลงไปช่วยเหลือดูแลชาวบ้าน แต่นายอดิศรกลับมาเล่นวลี แต่งกลอนด่าประจาน ทำให้เกิดความแตกแยกปั่นป่วนขึ้นในบ้านเมือง เล่นการเมืองไม่ถูกกาลเทศะ หากท่านมีความโกรธแค้นตนหรือท่านนายกฯ ก็ควรจะเลือกกาลเทศะให้เหมาะสม ซึ่งในช่วงบ้านเมืองวิกฤติจากไวรัสร้าย ทุกคนกำลังทุ่มเทกันทำงาน แต่กลับมาเล่นการเมือง ทำลายขวัญกำลังใจคนทำงาน การตัดต่อ การโพสต์ภาพ การทำให้คนโจมตีตนและท่านนายกฯ แบบเสียๆ หายๆ มันสมควรหรือไม่
“ทั้งนี้ ผมมาแจ้งความเอาผิดนายอดิศรเป็นการส่วนตัว เอาผิดคนแสดงความเห็นในทางเสียหาย ส่วนตัว พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว ท่านทราบเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าท่านจะดำเนินการอย่างไร” นายสุภรณ์กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ปอท.รับแจ้งความไว้ ก่อนส่งให้ฝ่ายสืบสวนทำการตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป