มท.1 เป็นประธานการประชุม คกก.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ ย้ำ ใช้มาตรการเข้มงวดป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ให้กระทบการดำรงชีวิตของประชาชน ให้สามารถซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคได้ในราคาปกติ ไม่มีการกักตุนสินค้า กำชับ ผู้ว่าฯ-พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (8 เม.ย. 63) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ครั้งที่ 1/2563 ผ่านระบบ Video Conference โดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนอธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมสรรพากร และผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุม
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท. กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันได้มีการระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 อันเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ทำให้บุคคลบางกลุ่มถือโอกาสกักตุนโภคภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการเฝ้าระวังและควบคุมติดตามการระบาด การป้องกัน และการรักษาโรค ตลอดจนการกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อให้โภคภัณฑ์ดังกล่าว ขาดแคลนในท้องตลาด ราคาจะได้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและสังคม จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดท้องที่เขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2563 ขึ้น เพื่อที่จะกำหนดพื้นที่สำรวจฯ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา แล้วในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2563 มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ขึ้นใหม่ เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
สำหรับการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาใน 4 เรื่องสำคัญ คือ 1. ร่างคำสั่งคณะกรรมการ เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันและปราบปรามการกักตุนโภคภัณฑ์ต่างๆ อันส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวการณ์ที่ประเทศกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยแบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือ ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ โดยให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น ผู้ว่าฯ กทม. ปลัด กทม. ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และ ผู้ว่าราชการจังหวัด/รองผู้ว่าราชการจังหวัด ในจังหวัดอื่นๆ เป็นต้น 2. ร่างประกาศคณะกรรมการ เรื่อง กำหนดระยะเวลาทำการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 และ 3. ร่างประกาศคณะกรรมการ เรื่อง กำหนดพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ และแบบเอกสารในการดำเนินการตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 และ 4. ร่างประกาศคณะกรรมการ เรื่อง กำหนดวิธีการขายโภคภัณฑ์ การยึด และบังคับซื้อโภคภัณฑ์ตามมาตรา 9(4) แห่งพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ รัฐบาลมุ่งที่จะลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยใช้มาตรการเชิงป้องกันในการดูแลสุขลักษณะ การรณรงค์ Social Distancing และมาตรการสกัดกั้น เช่น การกักตัว (Quarantine) ทุกรูปแบบอย่างเข้มข้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องเตรียมการเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างเป็นปกติ สามารถซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคได้ในราคาที่เป็นธรรม และต้องไม่มีการกักตุนสินค้า และสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ดังนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งต้องไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ไม่ให้มีการกักตุนสินค้า และถ้ามีการกระทำความผิดจะมีบทลงโทษอย่างไร ทั้งนี้ อาจมีกฎหมายฉบับอื่นที่เกี่ยวข้องก็สามารถนำมาบังคับใช้ได้ทุกฉบับ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการด้านการข่าวในการสืบหาบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดที่กักตุนสินค้า และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด