โฆษก ศบค.ยันรัฐบาลยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ขออย่าแปลงสารเป็นตุเป็นตะ เตือนผู้แชร์ข้อมูลเท็จ ระวังเจอโทษต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงกรณีทีมีการแชร์ข้อมูลทางโชเชียลมีเดียที่มีข่าวว่าจะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ว่าเป็นข้อห่วงใยของศูนย์ในเรื่องของการรับข้อมูลข่างสาร ตอนนี้เราเพิ่งประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 4 ทุ่ม ถึงตี 4 ของทุกวัน ทุกท่านยังต้องการการปรับตัวยังต้องการที่จะต้องใช้เวลาในการที่จะดูแลตัวเอง ถ้าท่านทำได้และตัวเลขของการติดเชื้อใหม่ลดลงมาตรการอื่นๆ ไม่ต้องมีเลย แต่ถ้าตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข แสดงว่ามาตรการที่มีอยู่ไม่เพียงพอถึงตรงนั้น อาจจะมีการปรับเพิ่ม แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้เป็น 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด มาตรการที่มีการแชร์กันออกไปก็คงจะเชื่อมโยงกันกับเรื่องของประกาศของทางปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้แจงว่าเจตนาของเอกสารชุดนี้จะออกไปคือสื่อสารไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด พูดง่ายๆ คือในส่วนของฝ่ายปกครองในพื้นที่ทั้งหลาย คือต้องแปลงจากนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ แจ้งเป็นข้อๆ ก็ใช้คำว่าเตรียมการเพื่อยกระดับ เป็นข้อมูลโดยธรรมดา ยังไม่ได้บอกว่ายกระดับเตรียมการยกระดับ เป็นข้อมูลการใช้คำที่ถูกต้อง ทางปลัดมหาดไทยก็แจ้งมาทั้งในเรื่องของเตรียมคนที่จะเข้าพื้นที่ต้องมีการกักตัว เราก็จะได้ไปหาที่พักที่อยู่หรือที่ต้องบรรจุคนเหล่านี้เข้าไปอยู่ตรงนี้จะได้ดำเนินการ ก็จะต้องใช้พื้นที่ จัดสถานที่ เนื่องจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติแล้วก็ต้องมีการทำแผนเผชิญเหตุ ต้องมีการควบคุมการกักตุนสินค้า วางแผนระบบโลจิสติกส์ เครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ไว้แล้วก็ให้มีระบบรายงานเพื่อให้ยืนยันได้ว่านโยบายที่เกิดขึ้นจาก ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์นี้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริงและนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
“แต่ท่านไปแปลง สื่อกันเอง สื่อทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็นสื่อบุคคลหรือสื่อที่เป็นสำนักหรือสื่อต่างๆ ที่อ่านเอกสารของทางราชการไม่ออก ไม่อยากใช้คำว่าอะไรเป็นตุเป็นตะขึ้นมา อันนี้ก็จะทำให้เกิดผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นคนที่จะไปกักตุนสินค้าหรือจะรีบไปหาข้าวของอะไรมา เพราะกลัวว่าจะออกจากบ้านไม่ได้ สรุปคมกันไป ซึ่งไม่เหมาะไม่ควรในเวลาอย่างนี้เลยต้องขอพวกเราทุกคน ถ้าไม่มั่นใจตอนนี้เราอยู่ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินการแชร์ข้อมูลที่ไม่ได้เป็นจริงมีโทษแล้วเราจะต้องมีการเข้มงวดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ขอให้ฟังในช่วงเวลาที่พวกเรามีการแถลงสดอย่างนี้เป็นที่สุด ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมไปกว่านี้ผมเองก็จะต้องถูกมอบหมายทำหน้าที่เป็นผู้ที่จะต้องมาประกาศมาแจ้งในเวลาประมาณ 11.30 น. ในช่วงเวลาของวันที่ไม่ได้มีการประชุม ผมจะอยู่ตรงนี้ ถ้ามีประชุมอาจจะช้าไปหน่อย รอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ประธานการประชุมประชุมเสร็จ ผมจะนำทุกเรื่องมารายงานต่อพี่น้องประชาชนด้วยตนเอง” โฆษก ศบค.กล่าว