นายกฯ สั่งแก้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ให้นำเข้ายาและเวชภัณฑ์รักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้โดยสะดวก พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านออนไลน์ ไม่ต้องไปธนาคาร ถ้าคุณสมบัติครบ ได้เงินแน่ และไม่ได้จำกัดที่ 3 ล้านคน
วันนี้ (28 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 โควิด-19 หรือ ศบค.แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทหาร ตำรวจ และจิตอาสาต่างๆ ที่ร่วมกันต่อสู้ รวมถึงขอให้ประชาชนคนไทยร่วมพร้อมใจอยู่บ้านเพื่อป้องกันตัวเอง และเพื่อช่วยแพทย์พยาบาลในการรักษาชีวิตของประชาชน พร้อมย้ำให้ทุกคน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
สำหรับสถานการณ์การการเชื้อโควิด-19 ในไทย พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 109 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเป็น 1,245 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตดังกล่าวพบว่ามีโรคประจำตัวเบาหวาน รวมผู้เสียชีวิต 6 ราย ซึ่งภาพรวมการติดเชื้อพบในกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 30-39 ปี มากที่สุด ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 596,779 ราย เสียชีวิตแล้ว 27,352 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขอัพเดตในวันนี้ เวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แก้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างเวชภัณฑ์ โดยให้กรมบัญชีกลาง องค์การอาหารและยา หรือ อย. และองค์การเภสัชกรรม อำนวยความสะดวกในการจัดหา ยา อุปกรณ์ที่ไม่ใช่ยา ให้นำเข้าได้โดยสะดวก และผ่อนปรนการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 โดยไม่กำหนดวงเงิน เพื่อปลดล็อคให้สามารถนำปัจจัยต่างๆ รวมถึงจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากาก N95 และ ชุดอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการสั่งซื้ออย่างละ 400,000 ชุด โดยคาดว่าจะได้รับสินค้าในเร็ววันนี้
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงมาตรการการเยียวยาที่รัฐจะชดเชยรายได้ให้กับผู้ใช้แรงงานนอกระบบประกันสังคม และประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบรายละ 5,000 บาท ว่า ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ประกอบด้วย แรงงาน ลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่จะเน้นคนทำงานที่เดือดร้อนจริง เช่น ถูกเลิกจ้าง โดนลดเวลาทำงาน และลดผลกระทบต่อรายได้ โดนลดเงินเดือน หรือ สถานประกอบการณ์ถูกปิด ขณะที่เกษตรกรและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากอยู่ในคุณสมบัติที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็สามารถลงทะเบียนได้เช่นกัน โดยลงทะเบียนได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่วันนี้ (28 มี.ค.) เวลา 18.00 น. ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปสาขาธนาคาร
ส่วนคนที่มีบัญชีธนาคารอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเปิดใหม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ และได้รับเงินเร็วที่สุดภายใน 7 วัน พร้อมย้ำว่า ยังไม่มีกำหนดว่าจะปิดรับลงทะเบียน และ ยอดการกำหนดผู้ลงทะเบียนจำนวน 3 ล้านคนนั้น เป็นเพียงตัวเลขคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งหากมีจำนวนมากกว่านี้ ก็จะขยายจำนวนผู้ที่จะได้รับการชดเชยเพิ่มขึ้นอีก สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนออนไลน์ทางโทรศัพท์ไม่เป็น หรือลงทะเบียนไม่ได้ สามารถเข้าหาเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันที
นพ.ทวีศิลป์ ยังยอมรับว่า ภายหลังการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผลที่ตามมายังไม่ดีเท่าที่ควร แม้ประชาชนจะให้ความร่วมมือค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า การวัดผลจะต้องวัดจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต้องลดลง
ส่วนการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้ขาดแคลน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้รับทราบถึงสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน โดยเฉพาะไข่ไก่ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแล และพร้อมที่จะสั่งการด้วยตัวเอง จึงขอให้ประชาชน และสื่อมวลชนร่วมกัน จับตาตรวจสอบผู้ที่ฉวยโอกาสหาประโยชน์ และอย่าให้คนเห็นแก่ตัว มีพื้นที่ยืนในสังคม
ส่วนกรณีประชาชนชาวบางบอน รวมตัวขับไล่ผู้ป่วยออกจากพื้นที่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการระบาด ดังนั้น ขอทำความเข้าใจให้กับประชาชน ว่า ขออย่ารังเกียจกัน และการป้องกันดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำ และเว้นระยะห่างต่อกัน ก็จะช่วยป้องกันโรคได้