xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาหน้ากากอนามัยยังไม่จบ แชตไลน์หลุดกลุ่มปชป. ลุกเป็นไฟไส่ไม่ยั้ง ปม “ที่ปรึกษารมว.” เอี่ยวกักตุน-ส่งออก **บุรีรัมย์โมเดล ผู้ว่าฯ "ธัชกร" ประกาศปิดเมืองสู้โควิด-19 "เนวิน" หนุนสู้ "บ้าน GU ต้องปลอดภัย ใครไม่ทำ GU ทำ"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว




**ดรามาหน้ากากอนามัยยังไม่จบ แชตไลน์หลุดกลุ่มปชป. ลุกเป็นไฟไส่ไม่ยั้ง ปม “ที่ปรึกษารมว.” เอี่ยวกักตุน-ส่งออก จะพา “ท่านหัวหน้า” มัวหมองมีมลทิน หรือจะเป็น“เจ๊”คนนั้น ที่มาของเสียงเรียกร้อง "ตัดติ่งเพื่อรักษาชีวิต" สายมโน เชิญตามสะดวก!

ว่ากันว่า ช่วงนี้กลุ่มไลน์ ส.ส.และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แชตกันไฟลุก ปะทะคารมกันดุเดือด โดยเฉพาะปมกักตุน“หน้ากากอนามัย” และคนใกล้ตัว "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

งานนี้ “อันวาร์ สาและ”ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรค จัดชุดใหญ่ แชตรัวๆ ก่อนจะรั่วออกมาว่า เรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยนั้น ผมและเพื่อนๆ ทราบมาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว และก็หวังว่าจะพูดในที่ประชุม ในวันที่ 7 มีนาฯ ว่าให้ระวังคนใกล้ชิดที่เคยมีปัญหา ส่งไลน์ ด่าส.ส.ในพรรค จนกระทั่งถูกบรรดา ส.ส.ประท้วง แต่เมื่อมีข่าวเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ที่มาเกี่ยวข้องกับ “ท่านหัวหน้าพรรค”ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ก็ได้รับแจ้งจากเครือข่ายว่า จะมีการกล่าวหาว่ามี “ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์”เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะสร้างความเสื่อมเสียให้ท่านหัวหน้ามีมลทิน ผมและเพื่อนสมาชิก ก็หวังว่าจะได้พูดกัน เพื่อที่จะช่วยท่านหัวหน้าแก้ไขปัญหา แต่พรรคก็เลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้าง โควิด-19

ข้อความของ"อันวาร์" ดังกล่าวนี้ บอกถึง เรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างดูอึมครึม ครึ้มฟ้าครึ้มฝุ่น โดยที่พรรค และ "ท่านหัวหน้าจุรินทร์" ใช้นิ่งเฉยสยบเคลื่อนไหว จนลูกพรรคที่เป็นห่วงอดรนทนไม่ไหว ต้องหาที่ทางระบายออก

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ในทางกลับกัน ก็อาจจะแปลความหมายได้ว่า ข่าวที่ว่ามี “ที่ปรึกษาฯ”เข้าไปเอี่ยวกับขบวนการกักตุนหน้ากากหรือไม่ อย่างไรนั้น "รมว.จุรินทร์" ปกปิดอะไรไว้หรือไม่ ทำไมถึงไม่ ยอมให้ตรวจสอบสอบถามไถ่ แม้แต่คนในพรรค

ว่าไปแล้ว ก็ตั้งแต่แรกที่มีกรณีกักตุนหน้ากากปูดออกมา ท่านหัวหน้าก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เล่นบท “นิ่ง”มาตลอด จนกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงมีคำสั่งปลด “วิชัย โภชนกิจ”อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุด "วิชัย" ได้ขอลาออกจากราชการเอง

แต่ลาออกก็ส่วนลาออก ในการสอบสวนเรื่องนี้ไม่ได้ถือว่าจบไปด้วย ... ฟังว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน อดีตอธิบดีกรมการค้าภายในแล้ว มีเวลาว่ากันไปยาวๆ 3 ปี เพื่อสืบสาวหาความจริงกัน

สรุปว่า ที่ผ่านมา "จุรินทร์" ดูจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจ คนที่รู้สึกทุกข์ใจกับข้อครหากักตุนหน้ากากอนามัย และการบริหารงานของพาณิชย์ กลับเป็น ลูกพรรค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เสียเอง

ว่ากันว่า ก่อนที่ "นายกฯลุงตู่" จะหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นคำสั่งย้ายอธิบดีกรมการค้าภายใน สมาชิกพรรคของท่านหัวหน้าจุรินทร์ ก็เคยขอให้ทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้ศรัทธา คนเขาด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง บอกให้ท่านหัวหน้าจุรินทร์ ต้องทำความจริงให้กระจ่าง และหากว่าเรื่องกักตุน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทำผิดไปจากประกาศที่กำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และ จุรินทร์ ไม่ "ปากว่าตาขยิบ" ก็ต้องกล้าสั่งย้ายอธิบดี

เรื่องนี้พิสูจน์กันได้ เพราะถ้าจุรินทร์ หรือคนใกล้ชิดจุรินทร์ รู้เห็นเข้าไปอีก ความซวยจะมาเยือนล่ะงานนี้ ประชาธิปัตย์ก็จะพากันกอดคอกันตายหมด

เรียกว่า เคยเตือนกันมาแล้ว !

วิชัย โภชนกิจ
พอมีแชตไลน์หลุดออกมาแบบนี้ ก็หวนให้นึกถึง เสียงลือเสียงเล่าอ้าง หลังจากที่เพจ“แหม่มโพธิ์ดำ”โพสต์เปิดโปงขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อปั่นราคา และส่งออกไปยังต่างประเทศ และต่อมา มีคนไปขุดคุ้ยจนได้ข่าวว่า กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกักตุน และการนำเข้าส่งออกหน้ากากอนามัย นั้นมี “ที่ปรึกษารมต.หญิง”เอี่ยวหัวคิวส่งออกหน้ากากอนามัยด้วย ก็ไม่รู้ว่า ใช่คนเดียวกันมั้ย กับที่ถูกพูดๆถึงในแชตไลน์ กลุ่มปชป. หรือเปล่า

ว่ากันว่า เมื่อต่อจิ๊กซอว์ดีๆ ก็จะถึงบางอ้อ “เจ๊”ทั่นที่ปรึกษาคนนี้ มีสายสัมพันธ์อันดีกับ“บิ๊ก”ข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์คนหนึ่ง ที่ตอนหลังมานั่งในตำแหน่งใหญ่ ด้วยการผลักดันของกลุ่ม กปปส. ในพรรคร่วมรัฐบาล คนๆ นี้รู้เส้นสนกลในช่องทางการทำมาหากินแบบเนียนๆได้ ก็คล้ายๆ กรณี “น้ำมันปาล์ม”ที่พูดทีไร ก็เป็นซิกเนเจอร์ของประชาธิปัตย์ ที่คนยังจำได้ไม่รู้ลืม

แว่วว่า ผลประโยชน์ที่ถูกเสนอให้ “เจ๊”ว่ากันที่ชิ้นละบาท จริงหรือไม่ ไม่รู้ แต่ถ้าคิดจากสต๊อกที่หายไป จาก 200 ล้านชิ้น หรือ ไม่กี่แสนชิ้นนี่ก็กินกันพุงปลิ้นเลยทีเดียว

ส่วนตอนที่ทำธุรกิจกักตุนทำกำไร จะสัญญาว่าจะกินแบ่ง หาทุนเข้าพรรค หรือเพราะว่าทำไปทำมา ส่อว่าจะอิ่มหนำอยู่คนเดียวไม่รู้ได้ เรื่องมันก็เลยแดง คนจับโป๊ะ ดูออก เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็เลยดังไปในกลุ่มสมาชิก จนอดรนทนใม่ไหว นั่นจึงเป็นที่มาของการพากันไปบอกท่านหัวหน้า เสนอให้ “ตัดติ่ง ตัดอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต”

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป จริงหรือไม่ ? ใครคือ “เจ๊”-“เจ๊”เป็นใคร ?

ก่อนที่ความจริงจะปรากฏ ตอนนี้ ก็ขอเชิญสายมโน จินตนาการกันไปพลางๆ ก่อนละกัน .

** บุรีรัมย์โมเดล ผู้ว่าฯ "ธัชกร" ประกาศปิดเมืองสู้โควิด-19 ยอมเจ็บเพื่อให้จบ ดีกว่ามันจบแล้วเจ็บ "เนวิน" หนุนสู้ "บ้าน GU ต้องปลอดภัย ใครไม่ทำ GU ทำ "

ธัชกร หัตถาธยากูล
ในขณะที่ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดเป็นไฟลามทุ่ง ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งพรวด 2 วันติด จนมียอดผู้ป่วยสะสมไปถึง 147 คนแล้ว

ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองกีฬา ในย่านอีสานใต้ "ผู้ว่าฯธัชกร หัตถาธยากูล" ก็ได้เรียกประชุม คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด แล้วประกาศ "ปิดเมืองด้วยมาตรการสาธารณสุข" เพื่อคัดกรองทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทุกคน ทั้งที่สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร โรงแรมที่พัก พร้อมทั้งใช้ระบบติดตามเฝ้าระวังไข้ตลอด 14 วัน เริ่มตั้งแต่เข้ามาในจังหวัด...

แน่นอนว่า มาตรการ "ปิดเมือง" ครั้งนี้ย่อมได้รับการสนับสนุนจาก "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองดังบุรีรัมย์ และอดีตรัฐมนตรี หลายสมัย ...ยืนยันได้จากเฟซบุ๊ก "ลุงเนวิน" ที่โพสต์หัวข้อ "แถลงการณ์ชาวบุรีรัมย์" ที่สอดรับคำประกาศของผู้ว่าฯ

“GU สู้ COVID ปิดเมือง เพื่อความปลอดภัย หยุดกิจกรรม เพื่อป้องกันการระบาด คนป่วย แยกรักษา เจ็บแต่จบ...บ้าน GU ต้องปลอดภัย ใครไม่ทำ GUทำ... บุรีรัมย์ สู้ !!!”

ในรายละเอียดของการ "ปิดเมืองด้วยมาตรการสาธารณสุข" ของผู้ว่าฯธัชกร ได้แก่ การคัดกรองไข้ ผู้ที่เข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ ผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ ต่างจังหวัด โดยทำการคัดกรองไข้ ที่สนามบิน สถานีรถไฟ โรงแรมที่พัก และหมู่บ้าน ... นายกฯท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เคาะประตูบ้านตรวจตรา ...มีระบบการลงทะเบียนติดตามเฝ้าระวังไข้ตลอด 14 วัน เริ่มตั้งแต่เข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ และเชื่อมโยงระบบเฝ้าระวังสาธารณสุขต่อไป

"หยุดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค" ... ยกเลิกหรือเลื่อนกิจกรรมการชุมนุมคนจำนวนมากตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น การประชุมสัมมนา กิจกรรมสันทนาการ งานประเพณี ปิดให้บริการสถานบันเทิง หรือตลาดนัดทุกแห่ง เป็นระยะ 30 วัน หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หากฝ่าฝืน ก็จะต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย... สนับสนุนให้มีช้อนกลางส่วนบุคคล สำหรับประชาชนทั่วไป ร้านอาหารจัดให้มีช้อนกลาง มีถ้วยแบ่งน้ำจิ้มส่วนบุคคล

"เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์"... ด้านการรักษา ให้จัดหอผู้ป่วยยืนยันการวินิจฉัย โดยมีห้องแยก ห้องความดันลบ ในทุกโรงพยาบาลในจังหวัดบุรีรัมย์ ...หากมีการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 ได้มีความพร้อม ได้แก่ ห้องแยก จำนวน 12 ห้อง 20 เตียง สำหรับผู้ป่วยหลัก 3 เตียง ในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และได้รับการสนับสนุนจาก โรงแรม BRIC BOX ซึ่งสามารถจัดให้เป็นห้องแยกระบบปิด จำนวน 80 เตียง ได้รับการสนับสนุนจาก ท่านประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยยืนยันวินิจฉัยได้มากถึง 115 คน

ในด้านการสอบสวนป้องกัน ควบคุมโรค ได้มีทีมหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อระบบจังหวัด...

หากย้อนไปดู เฟซบุ๊ก "ลุงเนวิน" ก่อนหน้าที่ "ผู้ว่าฯธัชกร" จะออกประกาศ "ปิดเมือง" ก็จะพบข้อความที่เขาได้เคยโพสต์ว่า...

เนวิน ชิดชอบ
"ฟังข้อมูลจากหมอ กระทรวงสาธารณสุข แล้วน่าเป็นห่วง ... อาทิตย์เดียว คนไทยติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 50 คน เป็น 114 คน สาเหตุหลัก คือ...

1. ไปเที่ยวต่างประเทศ
2. ไปดูงานต่างประเทศ
3. กลับจากต่างประเทศ ไม่กักตัวเอง
4. มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์ แต่ออกมางานพบปะสังสรรค์กับผู้อื่น
5. ผู้ป่วยเข้าไปอยู่ในสถานที่สาธารณะ ที่มีความแออัด (สนามมวย)
6. ใช้ภาชนะร่วมกันในการรับประทานอาหาร ดื่ม และ สูบบุหรี่ บารากู่ (ร่วมกัน)

สรุป เห็นแก่ตัว รักสนุก ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เอามาแพร่ระบาดให้เพื่อนสนิท ญาติมิตร คนใกล้ชิด และครอบครัว

ถ้าไม่อยากให้ไทยแลนด์ เป็นแผ่นดินติดโรค ก็อย่าทำแบบ 6 ข้อ ข้างบน

สงกรานต์ปีนี้ ลูกหลานจากกรุงเทพฯ รักพ่อ รักแม่ โทร.มาหา ไลน์มาคุยก็พอ ไม่ต้องกลับมา ไม่ต้องเอาเชื้อโรคติดตัวมาให้พ่อแม่...

แน่นอน !! โพสต์ของ "ลุงเนวิน" อาจทำให้หลายคนตบเข่าฉาด ว่า "ใช่เลย!!" เสียดายแกมอิจฉา ที่ไม่ได้เป็นคนบุรีรัมย์ ที่มีผู้นำอย่างไม่เป็นทางการอย่าง "เนวิน" คอยประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ให้สามารถออกมาตรการ สู้กับไวรัส“โควิด-19” ได้อย่าง "เด็ดขาด" ซึ่งหากทำได้จริง และทำอย่างนี้ได้ทุกจังหวัด ประเทศไทยจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในอาการ "หวาดผวา" และเชื่อว่าจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้อย่างแน่นอน

แล้วจังหวัดอื่นๆ ล่ะ รออะไรอยู่ ถ้าบุรีรัมย์ทำได้ ทำไมจังหวัดอื่นจะทำบ้างไม่ได้ ... หรือต้องให้ “ลุงตู่”สั่งเท่านั้น

ต้องยอมเจ็บเพื่อให้จบ ดีกว่ามันจบแล้วเจ็บ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น