รมว.ดีอีเอส เผย “ประยุทธ์” สั่ง ก.คลัง หามาตรการเยียวยาคนทำอาชีพอิสระ-ลูกจ้างรายวัน หลังโควิด-19 พ่นพิษเศรษฐกิจ เร่งหาแผนตรวจโรคแรงงานต่างด้าวเข้าไทยหลังเยี่ยมบ้านเกิด
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า รัฐบาลทราบถึงกรณีที่การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อประชาชนในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ทำงานรับจ้างที่ได้รับค่าตอบแทนรายวัน โดยหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ จะมีแนวทางที่ชัดเจนออกมา อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแนวทางการเยียวยาให้ครบถ้วน นอกเหนือจากเดิมที่ได้จัดเตรียมมาตรการ สำหรับการช่วยเหลือธุรกิจการท่องเที่ยว และเรื่องอื่นๆ โดยจะให้มีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ทำงานรับจ้างที่ได้รับค่าตอบแทนรายวัน ซึ่งคนส่วนนี้จะได้รับผลกระทบหากสถานประกอบการใดต้องปิดพักการทำงานในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคดังกล่าว นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเร่งหามาตรการรองรับกรณีของแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่จะลาหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด โดยจะต้องมีการตรวจคัดกรองโรคคนเหล่านี้ในช่วงที่เขาจะเข้าประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันไปประสานงานกับนายจ้าง หรือผู้ประกอบการในการดำเนินการดังกล่าวด้วย
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานในที่ประชุม ว่า เชื้อไวรัสนี้จะติดตามแพร่กระจายไปเมื่อมีการเคลื่อนย้ายของบุคคลจำนวนมาก ดังนั้น หากให้มีการหยุดยาว ก็อาจจะทำให้มีกลุ่มคนจำนวนมากเดินทางไปที่ต่างๆ หรือกลับสู่ภูมิลำเนา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเผยแพร่เชื้อดังกล่าวไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ มากขึ้น จึงควรมีแนวทางการเลื่อนวันหยุดยาวออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม มาตรการหลายๆ อย่างที่ออกมาจากในการประชุมศูนย์บริหารฯ ในวันนี้ (16 มี.ค.) จะถูกนำเสนอเข้าสู่การขอความเห็นชอบจากของที่ประชุม ครม.อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ขณะเดียวกัน จะมีมาตรการบางส่วนที่สามารถทำได้ทันที
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการปิดประเทศด้วยหรือไม่ รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า สาระสำคัญจริงๆ อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายแพทย์ การประชุมทุกอย่างของเรายึดแนวทางการพิจารณาสถานการณ์จริงจากฝ่ายแพทย์ก่อน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันว่ากระบวนการต่างๆ ที่ได้เตรียมพร้อมไว้เป็นเรื่องของการเตรียมการสำหรับการรักษาพยาบาล เพื่อพร้อมรับสถานการณ์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยนำสถานการณ์ด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาลมาเป็นตัวตั้ง