“มท.1” ย้ำเรื่องทำหน้ากากอนุมัติงบลงพื้นที่แล้ว พร้อมดำเนินการได้เลย ส่วนแรงงานที่กลับเข้าประเทศ ใช้ อปท. เข้าไปดูแล พร้อมรอ คกก.พลังงาน ชงเรื่องเข้า ครม.ปมลดค่าน้ำ-ไฟ
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการทำหน้ากาก ว่าคือทางเลือกที่ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับกรมการปกครองดำเนินการ ขณะนี้การฝึกวิทยากรกำลังดำเนินการ โดยใช้ฐานตำบลและหมู่บ้าน มีความคืบหน้าได้ประมาณ 100,000 กว่าคนแล้วทั่วประเทศ โดยเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ได้มีการสั่งจ่ายเงินไปถึงทางจังหวัดแล้ว ในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นเรื่องของการให้เงินลงไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แล้วเมื่อเงินไปถึงเขาก็จะสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ ซื้อของได้ ถ้าเป็นไปตามนี้ใครที่สามารถทำได้เร็วก็น่าจะเริ่มผลิตได้ต้นสัปดาห์หน้า เราก็พยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด
เมื่อถามถึงปัญหาการกักตุนหน้ากาก พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับพาณิชย์จังหวัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบ วันนี้จำนวนร้านค้าที่เราเข้าไปตรวจสอบมีกว่า 1,000 ร้าน มีของอยู่ไม่กี่ร้าน ตรงนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องกักตุนอย่างเดียว โดยสังคมจะต้องเข้าใจว่า ทั้งประเทศเมื่อหักที่จะต้องให้บุคลากรทางการแพทย์แล้วจะเหลือประมาณวันละ 600,000 แสนชิ้น เพื่อกระจายไปทั้งประเทศ จะกี่ร้านก็หารไป ยิ่งไม่มีของหนักเข้าไปอีก เพราะจำนวนการผลิตสามารถทำได้เท่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสุ่มตรวจ และหากมีการกักตุนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณีให้ท้องถิ่นช่วยตรวจสอบผีน้อย พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า สำหรับแรงงานที่กลับเข้ามาในประเทศ จะไปเข้าพักเพื่อตรวจสอบตามเขตของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกที่เข้าก่อนตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม จำนวน 1,354 คน รายชื่อทั้งหมดไปถึงแต่ละจังหวัดตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ขณะนี้กำลังตรวจสอบกับกรมการปกครอง ขั้นตอนต่อไปคงจะให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยเพื่อบอกมาตรการ แล้วให้ อสม.เข้าไปตรวจสอบร่างกายเป็นประจำทุกวัน ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่จะเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวกเท่านั้นเอง ซึ่งอยากฝากให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ในส่วนนี้ด้วย ส่วนกลุ่มที่สองที่เพิ่งเข้ามา ก็กำลังดำเนินการส่งไปยังพื้นที่ที่เราเตรียมไว้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ อย่าไปตั้งชื่อให้เขาแปลกแยก เพราะก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เขาไปหากิน ต่อให้เขาติดไวรัสก็ต้องเอาไว้ในแผ่นดินนี้ จะเอาไปไว้ที่ไหน ก็ต้องแผ่นดินนี้แหละ อยากให้เรียกกันให้ดีๆ พูดจาปราศรัยกันให้ดีๆ ยังมีวิธีที่จะอยู่ร่วมกัน ประเทศไทยยังไม่ถึงขนาดว่ามองหน้ากันแล้วติดโรคเสียที่ไหน อยากให้สื่อช่วยสร้างสังคมดีๆ ด้วย
เมื่อถามถึงมาตรการช่วยเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ประชาชนในช่วงวิกฤต พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจได้เสนอแนวความคิดว่าน่าจะมีมาตรการ 2 เรื่อง คือ ลดค่าน้ำประปา ไฟฟ้า หรือให้ผ่อนได้ สำหรับคนที่มีปัญหา ซึ่งทาง ครม.เศรษฐกิจได้รับหลักการ แต่ยังไม่มีข้อสรุป ทางคณะกรรมการดำเนินงานก็จะไปดำเนินการว่าหากจะลดค่าไฟ จะลดให้กลุ่มได้บ้าง และจะลดจำนวนเท่าใด ใครที่มีหนี้สินกี่วงรอบบิลจะให้ผ่อนชำระได้ จากนั้นจึงจะค่อยเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาอีกว่าได้มีข้อเสนอจากภาคธุรกิจ เขาอยากให้คืนเงินประกันค่าใช้ไฟฟ้า ซึ่งทางการไฟฟ้าฯเรียกเก็บไว้ล่วงหน้าประมาณ 1-2 เดือน สำหรับใครที่ใช้ไฟแล้วไม่จ่ายเงิน เขาก็จะหักจากตรงนี้ ไม่ใช่เงินประกันค่ามิเตอร์ ทั้งนี้ หากคณะกรรมการพลังงานเสนอเข้าสู่ ครม.แล้ว ครม.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่ต้องรอให้เข้า ครม.ก่อน