ทีมโฆษกศาลปกครอง แจงคดีจำนำข้าวไม่ใช่ศาลนิ่งเฉย ชี้คู่กรณีสู้ยิบตา ละเอียดทุกประเด็นเหตุฟ้องมูลค่าสูง เผยแสวงหาข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว รอองค์คณะพิพากษา รับภาพรวมยังช้าต้องแก้ไขไม่เฉพาะคดีนี้
วันนี้ (9 มี.ค.) นายเทอดพงศ์ คงจันทร์ รองโฆษกสำนักงานศาลปกครอง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนำข้าวและคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกรวม 4 คนชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 35,000 ล้านบาท จากกรณีการทุจริตในคดีรับจำนำข้าว ว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำนำข้าวมีการฟ้องในศาลปกครอง 5-6 คดี 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าศาลไม่ได้ทำอะไร แต่ประเด็นความเสียหายที่มีการฟ้องมีมูลค่าสูง ทำให้คู่กรณีมีการต่อสู้กันอย่างละเอียดทุกประเด็นปีที่ 1-2 จึงเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงแต่ในปีที่ 3 นี้ ขณะนี้การแสวงหาข้อเท็จจริงครบถ้วนยุติแล้ว จากนี้องค์คณะก็จะรีบพิจารณาเพื่อนำไปสู่การมีคำพิพากษาซึ่งจะเป็นวันไหนเวลาใดก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาขององค์คณะไม่สามารถกำหนดได้
ส่วนเรื่องการบังคับคดีที่ตอนนี้กรมบังคับคดีมีการยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังศาลปกครองสูงสุดยกคำขอทุเลาการบังคับใช้ตามคำสั่งยึดทรัพย์ของกระทรวงการคลังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นคำร้องนั้น ในส่วนของคดีหลักที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็สู้ว่าตนเองไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทางองค์คณะได้แสวงหาข้อเท็จจริงเสร็จแล้วและขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดี ส่วนที่ขณะนี้ทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจมีการถูกขายทอดตลาดไปก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาเข้าใจว่าในอนาคตหากศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนก็น่าจะมีกระบวนการดูแลเยียวยา
ขณะที่นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง ยอมรับว่ากระบวนการพิจารณาคดีโดยภาพรวมของศาลยังช้าอยู่ แต่ศาลก็พยายามเร่งพิจารณาให้เร็วขึ้น ตระหนักตลอดว่าความล่าช้า อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งก็ต้องพยายามแก้ไขในภาพรวมไม่เฉพาะกับคดีนี้เท่านั้น