“ธรรมนัส” โต้ปมกักตุนหน้ากากอนามัย ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มองเอี่ยวปมการเมืองหรือไม่ เพราะคนทำโพสต์ด่ารัฐบาลตลอด แถมอ้างมี 200 ล้านชิ้น โม้หรือไม่ ลั่นหากคณะทำงานผิดจริงฟันไม่เลี้ยง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของโรงงาน
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แถลงชี้แจงกรณีมีคนสนิทได้กักตุนหน้ากากอนามัย จำนวน 200 ล้านชิ้น ว่า กรณีที่ นายศรสุวีย์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ไปลงเฟซบุ๊กว่า ขายหน้ากากอนามัยนั้น ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับบุคคลผู้นี้ และไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขา สำหรับกรณีของ นายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานตนเอง ส่วนตัวไม่ได้สอบถามนายพิตตินันท์โดยตรง ซึ่งนายพิตตินันท์เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 6 ของพรรคพลังประชารัฐ และเรื่องนี้ได้เรียนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แล้ว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนที่สมัครเลือกตั้ง ได้รับรายงานว่า นายพิตตินันท์ มีคะแนนดี ก็อยากให้ทำงานการเมืองในพื้นที่ต่อไป และขอมาสมัครเป็นคณะทำงาน โดยดูแลเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้ทีมงานสอบถามแล้วว่าไปรู้จักกับนายศรสุวีย์อย่างไร ปรากฏว่า ได้มีการนัดเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเป็นการเจรจาเพื่อเอาหน้ากากไปแจกชาวบ้านในพื้นที่เขตเลือกตั้งของเขา โดยยังไม่มีการซื้อขายหน้ากาก
“นอกจากนี้ ได้แจ้งทีมงานแล้วว่า ให้นายพิตตินันท์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงจรนี้ และเพื่อเอาผิดกับนายนายศรสุวีร์ที่สุราษฎร์ธานี ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการการขายหน้ากาก และได้ประสานงานกับสถานีตำรวจหนองปรือ ชลบุรี ว่า ให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว และหากมีการกักตุนหน้ากากจริง ผมจะนำไปทลายตรงนี้เอง นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะตรวจสอบพฤติกรรมของนายพิตตินันท์ หากมีความผิดจริง จะไม่เอาไว้แน่นอน ใครก็ตามที่เป็นคณะทำงานผม หากไปเกี่ยวข้องกับวงจรอุบาทว์พวกนี้ จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดให้ถึงที่สุด จะไม่เลี้ยงเลยคนพวกนี้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีหน้ากากอนามัยถึง 200 ล้านชิ้นหรือไม่ หรือแค่โม้ แต่ได้ให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดีทันที แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีหน้ากากจริง น่าจะเป็นคนที่อยากดังมากกว่า
“ประเด็นนี้สังคมให้ความสนใจ ดังนั้น การนำเสนอข่าวต่างๆ อยากให้นำเสนอข้อเท็จจริงก่อน เพราะผมไม่อยากไปดำเนินคดี แต่จริงๆ แล้วที่สื่อที่เอาลงไปแต่เช้า ผมได้ให้ฝ่ายกฎหมายร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ตั้งสังเกตอีกว่า ในเฟซบุ๊กของนายศรสุวีย์ มีการโพสต์ข้อความด่ารัฐบาลมาตลอด จึงไม่เข้าใจว่ามีวัตถุประสงค์อะไรที่เอามาโพสต์แบบนั้น ยังไม่อยากคิดไปไกล แต่จะต้องมีการตรวจสอบว่าบุคคลนี้มีเบื้องหลังที่แท้จริงอะไรหรือเปล่า จึงไปโพสต์อย่างนั้น
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยืนยันว่า ตนเองอยู่บนโลกความเป็นจริง และเรื่องอย่างนี้อาจเป็นโชคร้ายของนายศรสุวีย์ ที่โพสต์เฟซบุ๊กอย่างนั้น ตนเอาจริงเอาจัง วันนี้จะรู้ว่ามีโรงงานจริงหรือเปล่าและได้สั่งการไปแล้ว
“ไม่ใช่หน้าที่ของผมในการกำกับดูแลเรื่องหน้ากากอนามัย แต่เมื่อมาพาดพิงเกี่ยวกับผม จึงต้องจัดการให้เรียบร้อยและจะตรวจสอบในเชิงลึก” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้จะทำให้มีผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนไว้วางใจจากสภาน้อยที่สุด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “คะแนนที่ออกมาหาก ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คน ลงคะแนนให้ผม คะแนนมันจะน่าเกลียด ที่บอกได้น้อย จริงๆ ไม่ใช่น้อยนะครับ”
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อว่า ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐที่สอบตก แต่ได้คะแนนอันดับสอง เรามีนโยบายที่จะดูแลคนพวกนี้ต่อเพื่อให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้งเขตนั้นๆ ดังนั้น รัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็จะตั้งเป็นคณะทำงาน อย่างตนก็ไม่ใช่ตั้งนายพิตตินันท์คนเดียว แต่ตั้งเกือบ 30 กว่าคน และส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตผู้สมัครของพรรคที่ได้อันดับสอง ดังนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องเจาะจงที่จะต้องตั้งนายพิตตินันท์คนเดียว
เมื่อถามว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้วผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้สอบถามมาหรือยัง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าและได้นำเรียนข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้วอย่างที่ตนได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว