นายกฯ แจงเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจ้างงาน ไม่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใด

“บิ๊กตู่” แจงให้ต่างชาติเช่าที่ดินตามกฎหมายเดิม 50 ปีบวก 49 ปี ถ้าไม่เห็นควรก็ไม่ให้ต่อ ยกเวียดนามให้มากกว่านี้ ย้ำต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการจ้างงาน ทั้งรถไฟ มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลไม่ยอมทำ ยันไม่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใด ลงทุนรถไฟความเร็วสูง เหตุต้องการให้ประเทศเป็นเจ้าของเส้นทางเอง

วันนี้ (26 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ว่า จำเป็นต้องลงทุนเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลทำไมทำไม่ได้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันโดยปี 2567 จะมีเครือข่ายทางรถไฟกว่า 4,400 กิโลเมตร การขนส่งทางถนน มีการขยายโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเพิ่มขึ้นอีก 525 กิโลเมตรในปี 2566 จากปี 2557 มีเพียง 165 กิโลเมตร และจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครกว่า 400 กิโลเมตรในปี 2569 ส่วนรถโดยสารประจำทางอยู่ระหว่างการเร่งปฏิรูปจัดการเดินรถแบบใหม่ สำหรับการขนส่งทางอากาศ ก็มีปัญหาเกี่ยวกับการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและขยายท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 2 และการเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานทั่วประเทศ โดยจะมีขีดความสามารถรับได้ 169.8 ล้านคนต่อปี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ก็ต้องทำทุกที่ ปัญหารัฐบาลก่อนหน้านี้ก็ต้องมาตามแก้ ซึ่งก็ต้องดูแลประชาชน เช่นเดียวกับในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC การยกพื้นที่ให้ต่างชาติเช่า 100 ปีนั้น เป็นกฎหมายเดิมซึ่งเป็น 50 ปีบวก 49 ปี หากเห็นสมควร ถ้าไม่เห็นสมควรก็ไม่ให้ต่อ แต่ที่ดินยังเป็นของประเทศไทย โรงงานก็เป็นของไทย ไม่สามารถรื้อไปได้ เป็นการสัมปทานเท่านั้น ส่วนสิทธิประโยชน์ BOI ไม่ได้ให้เฉพาะต่างประเทศ แต่คนไทยก็ได้ด้วย ซึ่งประเทศอื่นๆ อย่างเวียดนามให้สิทธิประโยชน์มากกว่าเรา แต่ประเทศไทยนั้นคำนึงถึงกฎหมายด้วย และขอให้ทุกคนช่วยสร้างความเชื่อมั่น ไปบอกว่าอย่าลงทุน ถ้ามีเงินให้เก็บไว้ก่อน อย่างนี้มันใช่หรือ

ส่วนการทำงานแผนปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ดูมาตลอดตั้งแต่ต้น ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใด พร้อมชี้แจงว่าประเทศไทยพยายามจะลงทุนเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่อเป็นเจ้าของเส้นทางเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูงเอง ส่วนการจัดการปัญหาขยะพลาสติกก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้วโดยมีรถมาตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2573 ซึ่งบริษัทห้างร้านก็ให้ความร่วมมือ