“ปิยบุตร” โอดเจ็บหัวใจ ส.ส.อนาคตใหม่ หนีซบภูมิใจไทย ทวงถามลืมแล้วหรืออุดมการณ์ที่เคยลงสัตยาบันร่วมกัน เย้ยพรรคอื่นเคยดูถูกว่าเป็น ส.ส.สามล้อถูกหวย ก็หวังว่าไปแล้วจะได้ทำหน้าที่ ไม่ใช่แค่ยกมือเติมเต็มให้ฝ่ายรัฐบาล หมดประโยชน์ก็โดนเขี่ยทิ้ง
วันนี้ (24 ก.พ. 63) ภายหลังจากมีการยืนยันแน่ชัดแล้วว่า อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จำนวน 9 คน ได้ย้ายซบพรรคภูมิใจไทย โดยระหว่างที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการย้ายไปนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับที่นั่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย บางคนยังไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคภูมิใจไทยด้วย โดย ส.ส.ทุกคนได้ติดบัตรที่หน้าอก แต่ได้คว่ำบัตรปิดชื่อของตัวเองไว้ ประกอบด้วย นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23, ร้อยตำรวจตรี มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต10, นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21, นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1, นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3, นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1, นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1, นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ล่าสุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.ย้ายซบภูมิใจไทย ว่า มันเจ็บหัวใจเมื่อพรรคถูกยุบแล้วทำไมเป็นแบบนี้ ตกลงการเมืองไทยเป็นแบบนี้หรือ อย่างไรก็ตาม ตนเริ่มได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน กระทั่งเช้านี้เป็นที่ชัดเจนว่ารายชื่อที่ปรากฏไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่เป็นไร ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน แต่อยากให้คนที่ไปทั้งหมดนึกถึงวันที่สร้างพรรคมาด้วยกัน ให้นึกถึงอุดมการณ์ที่เคยพูดไว้ เราเคยให้สัตยาบันว่าจะสู้ด้วยกันจนกว่าจะได้มาซึ่งประชาธิปไตย ไม่นึกเลยว่าเมื่อยุบพรรค ทุกสิ่งทุกอย่างจะลืมไปหมดได้รวดเร็วแบบนี้
ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่า ตอนที่อยู่กับพรรคอนาคตใหม่ได้เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีบทบาท แต่ตนไม่แน่ใจว่าเมื่อไปอยู่พรรคอื่นทุกคนจะได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมกับพรรคมากน้อยแค่ไหน หรือคนที่ไปเพื่อไปยกมือเติมเต็มให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ท้ายที่สุด ถามว่า คุณค่าความเป็น ส.ส.อยู่ตรงไหน ตนหวังจริงๆ ว่า ไปแล้วคงจะได้ดีและที่ลือกันว่าไปแล้วได้ผลประโยชน์ ขอให้ไม่เป็นความจริง แต่หวังว่าจะไปด้วยอุดมการณ์ ซึ่งต้องถามกลับมาอุดมการณ์อะไรที่ไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทย อุดมการณ์อะไรที่เคยพูดไว้ตอนอยู่กับพรรคอนาคตใหม่
วันนี้ตนก็ต้องพูดแบบตรงไปตรงมา ว่า เพิ่งเคยพบเห็นว่าการเมืองไทยเป็นแบบนี้ ว่า ในยามที่ร่วมสุขกันมาก็เต็มที่ ตนไม่รู้ว่าแรงผลักดันคืออะไร รัฐบาลได้ไป 260 เสียง ถามว่าจะเอาอีกกี่เสียง ท้ายที่สุดนี่หรือคือ การปฏิรูปที่เราต้องการเราต้องการพรรคการเมือง ต้องการรัฐสภาแบบนี้ใช่ไหม พรรคการเมืองแบบพรรคอนาคตใหม่ที่ต้องการทำให้โปร่งใส ทำงานเมืองอย่างมีคุณภาพ กลับถูกยุบ แต่ปล่อยพรรคการเมืองที่คอยดึง ส.ส. ไปแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ตกลงประเทศนี้กลับตาลปัตรใช่แล้วหรือไม่ สุดท้ายขอให้ฟังเสียงประชาชนนอกสภาบ้าง
“ผมคุยกับผู้บริหารพรรคหลายพรรค ผู้หลักผู้ใหญ่พรรคอื่นเขาแซว ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขาพูดกันแรง ใช้คำว่าพรรคอนาคตใหม่ มีแต่ ส.ส.สามล้อถูกหวย ผมยืนยันมาโดยตลอดว่า พรรคผมไม่ใช่ ส.ส.สามล้อถูกหวย แต่เป็น ส.ส.ที่มีความรู้ความสามารถและแสดงบทบาทได้ดี แต่ท้ายที่สุดวันนี้ก็แตกไปอยู่กับพรรคอื่น และเห็นเขาพูดกันว่าจะใช้ ส.ส.ที่ย้ายไปประมาณ 3 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไปพิสูจน์กัน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเพื่อน ส.ส.ที่ย้ายไปพรรคอื่นได้ประเมินความพอใจของประชาชนข้างนอกหรือไม่ รวมถึงประเมินเสียงของนิสิต นักศึกษา และคนหนุ่มสาวที่ได้เลือกพรรคอนาคตใหม่ที่ให้มาต่อสู่กับรัฐบาลสืบทอดอำนาจหรือไม่ ผมคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีผลประโยชน์จะให้ มีแต่ความจริงใจและอุดมการณ์ เมื่อตัดสินใจแล้วก็ไม่ว่ากัน ขอให้โชคดี ได้มีบทบาทกับพรรคใหม่จริงๆ” นายปิยบุตร กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่จะดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เดี๋ยวว่ากัน ตั้งแต่จดทะเบียนตั้งพรรค กกต. เคยได้แนะนำว่า มีมาตราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอาไว้ค่อยว่ากัน