ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เปิดพื้นที่ให้เต็มๆ กับคำชี้แจงของพ่อเทพบุตรนักบุญ "ฉาย บุนนาค" กับขุนพลสวรรค์ "เบิ้ม ประชาไท" ไม่พูดมาก เจ็บคอ เชิญเมนต์กันตามสะดวก!!
"ฉาย บุนนาค" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เขียนบทความในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กรณีที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ในหัวข้อ "บทเรียนในคนทำสื่อ" ระบุว่า
จากรายการliveสด “ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง”ของ“คุณสนธิ ลิ้มทองกุล”เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา
หนึ่งในผู้ถูกพาดพิงจากการเล่าเรื่องครั้งนี้ของ“คุณสนธิ” คือ “ผม”จึงขอเล่าข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนร่วมกัน
“คุณสนธิ ลิ้มทองกุล”หรือ “อาสนธิ”คือ เพื่อนรักของพ่อผม (คุณยุทธ ชินสุภัคกุล) ตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญ ศรีราชา…นอกจากนั้น “อาสนธิ”ยังเคยได้ร่วมงานกับแม่ของผมตั้งแต่สมัยทำงานที่ PSA (พร สิทธิอำนวย)…
ซึ่งที่ผ่านมาแม่ผมได้ชื่นชม “อาสนธิ”อยู่บ่อยครั้งถึงวิสัยทัศน์และทักษะด้านการโน้มน้าวจิตใจคนผ่านการพูดจา
ผมได้พบกับ “อาสนธิ”ครั้งแรกที่ “บ้านพระอาทิตย์”หรือ ออฟฟิศของ ASTV ผู้จัดการ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2558 ด้วยการแนะนำของคุณยุทธ… หลังจากนั้นผมยังได้พบปะพูดคุย…แลกเปลี่ยนแนวคิดและรับการชี้แนะประสบการณ์จาก “อาสนธิ”อย่างสม่ำเสมอโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำสื่อ และเรื่องการท่องยุทธจักรบู๊ลิ้ม
แม้กระทั่งภายหลังช่วงที่ “อาสนธิ”ต้องโทษจำคุก ช่วงระหว่าง เดือน ก.ย.59 ถึง เดือนก.ย.62 …ผมก็ได้ไปเยี่ยมและพูดคุยเป็นครั้งคราวเสมอมา
จนล่าสุด… เมื่อ “อาสนธิ”ออกจากเรือนจำ…ผมก็ได้ไปเยี่ยมเยียนอีกครั้งด้วยความเคารพพร้อมคุณพ่อ
การที่ “อาสนธิ”ออกมาพูดพาดพิงถึงผมและองค์กร…จากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและคลาดเคลื่อนจึงเป็นสิ่งที่ผมต้องขอเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเพื่อทราบ…
- ผมดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหาร”… ของ “เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป” และ “เนชั่นทีวี“…ดังนั้นตามสายงานปฏิบัติ… ผมมิได้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวใดๆโดยตรงกับกองบรรณาธิการของแต่ละสื่อ…ผมมีหน้าที่เพียงกำหนดนโยบาย และควบคุมคุณภาพมาตรฐาน “อาหารทางความคิด”เพื่อสังคมส่วนรวม
- “คม ชัด ลึก”คือ สื่อสิ่งพิมพ์รวมถึงออนไลน์ใน “เครือเนชั่นกรุ๊ป”ซึ่งยึดถือหลักอุดมการณ์ร่วมกันในการทำหน้าที่ดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ…ทะนุบำรุงศาสนา…และเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง
ด้วยแนวทางนี้…เราจึงมีหน้าที่ตรวจสอบและนำเสนอข้อเท็จจริงทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด…เราไม่มีแนวคิดในการใช้สื่อเพื่อการรีดไถ หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์เพื่อใครคนหนึ่งหรือเพื่อทำลายล้างคู่แข่ง…
- เกี่ยวกับเรื่องการพบปะพูดคุยกับ “ผบ.ตร. จักรทิพย์ ชัยจินดา”หรือ “พี่แป๊ะ”…ผมได้รับการร้องขอเพื่อชี้แจงข้อมูลจาก “พี่แป๊ะ”ผ่านการบอกกล่าวจากภรรยา “คุณวทันยา วงษ์โอภาสี”ซึ่งรู้จักกับ “พี่แป๊ะ”เดิมอยู่แล้ว…และเสมือนคนอื่นๆ หน้าที่ของผมคือการรับผิดชอบและเปิดโอกาสในการสื่อสาร…และประสานข้อมูลทุกด้านให้กองบรรณาธิการรับทราบเพื่อสื่อสารสาระประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป…
- ด้านสถานะการเงินขององค์กรในเครือเนชั่น…ผมขอเรียนว่าเราได้แก้ไขปัญหาหนี้สินกว่า 3.8 พันล้าน จนเกือบหมด เหลือเพียงหนี้สินหมุนเวียนทั่วไป…ด้านผลประกอบการและความนิยมของช่องเนชั่น…เราไม่ได้ขาดทุนอย่างที่กล่าว…เรามีกำไรสุทธิกว่า 432 ล้านบาท และมีรายได้เติบโตขึ้นเกือบ 100%…อีกทั้งเราได้พัฒนาเรตติ้งกว่า 3 เท่า (จาก 65,000 ไปที่ 180,000 เฉลี่ยผู้ชมต่อนาที) ในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาและได้ตอกย้ำความเป็นช่องข่าวอันดับ 1 ของประเทศ…ด้านผลตอบแทนต่อพนักงานล่าสุด เราได้จ่ายโบนัสประจำปีให้พนักงานที่ร่วมทุ่มเทแรงกายแรงใจกันมาทุกท่าน…ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ล่าสุดเราได้ร่วมกับมูลนิธิศรีธรรมราชา… ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์… เจ้าคณะสงฆ์ภาคใต้…ในการร่วมระดมทุน สร้างตึกสงฆ์อาพาธที่จังหวัดนครศรีธรรมราช… จำนวนกว่า 90 เตียง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท และจะเป็นตึกสงฆ์อาพาธที่รองรับพระภิกษุได้มากที่สุดในภาคใต้
โดยส่วนตัว ผมมีความเคารพ“อาสนธิ”เสมอมาในฐานะเพื่อนรักของพ่อ และในฐานะผู้อาวุโสในแวดวงสื่อสารมวลชน
ผมยังจำได้ดีถึงวันที่ “อาสนธิ อุ้มลูกผมทั้งสอง ของผมด้วยความเมตตา…
แม้ในอดีตผมเคยลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งอาจเคยหวือหวาไปบ้าง แต่ก็ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย…และปัจจุบันผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิต เลิกเล่นหุ้นไปแล้วอย่างเด็ดขาด…
ในฐานะของผู้ด้อยประสบการณ์กว่า…การเรียนรู้ศึกษาประสบการณ์จากรุ่นพี่ในวงการสื่อ…ทั้งดีและร้ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในพัฒนาให้องค์กรได้เรียนทางลัดและได้สร้างสรรค์คุณธรรมสูงสุดเพื่อส่วนรวม
ด้วยข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ จากการที่ “อาสนธิ”พูดเรื่องการรบ…การต่อสู้…ผมขอเรียนว่า องค์กรเรามีหน้าที่รบกับศัตรูของประเทศชาติบ้านเมืองเพียงเท่านั้น…และจะไม่มีคำว่าสงครามสื่อ
ด้วยจิตคารวะ
...หลังฉายตีพิมพ์บทความ "ประชาไท ธนณรงค์" ผู้อำนวยการด้านเนื้อหากองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ก็มาพูดในเฟซบุ๊กไลฟ์ "เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend"อีกครั้ง
ไลฟ์สดกรณีที่ "ท่านประธานฉาย" ของเขา เขียนบทความพูดถึงการเฟซบุ๊กไลฟ์นายสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา และตอบคำถามคนที่เข้ามาแสดงความเห็นดังนี้...
ประชาไท ว่า ผมไม่ได้รับเงินใคร คือเรื่องของคุณสนธิ พวกเราไม่มีอะไรเลย ถ้าหากไปฟังคุณสนธิแล้ว คืออะไรล่ะ ก็ต้องกรองนะ ต้องบอกให้ ปอท.กระทรวงดีอี. ว่าเป็น เฟกนิวส์ รึเปล่า
ท่านประธานฉาย เขียนเป็นไปด้วยความเมตตา เราเป็นสื่อสารมวลชน เปรียบเทียบกับภูเขาทอง เป็นเรื่องธรรมดา
วิธีการทำงานของนักข่าวรุ่นเก่ามักจะคิดว่า หนังสือพิมพ์เวลาเล่นข่าวอะไร ก็จะเล่นตามกันไปหมด ฉบับไหนไม่มีข่าวเหมือนฉบับอื่นก็จะถามว่า ทำไมไม่เล่นข่าวเหมือนกัน
เหมือนกับตึกหลายคูหา เปิดขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเป็ด แล้วทำไมจะมีคนขายก๋วยเตี๋ยวไก่บ้างไม่ได้ ถ้าก๋วยเตี๋ยวไก่ขายดี ทำไมต้องมาตั้งคำถามกับผม เปิดขายก๋วยเตี๋ยวไก่ ทำไม
ทำหนังสือพิมพ์เป็นหรือเปล่า เป็นนักข่าวมานานซะเปล่า
ผมไม่อยากสอนจระเข้ว่ายน้ำ
ผมไม่ได้เล่นข่าวเพื่อที่จะให้ใครตาย หรือเพื่อที่จะไปทำลายล้างใคร
เราไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นผู้นำ ปรามาจารย์ ตั้กม้อ เจ้าสำนัก
รังเกียจมากกับการใช้เฟกนิวส์ และวิธีการเก่าๆ ของพวก 18 มงกุฎในแวดวงสื่อมวลชน เล่นข่าวเพื่อแสวงหาประโยชน์ ไปตบทรัพย์คนอื่น
วิธีการเก่าๆ เราไม่เอา เพราะเราเป็นนักข่าวรุ่นใหม่ แล้วอีกไม่นานเราจะเป็นรุ่นเก่า จะกลายเป็นตำนาน เราไม่ได้ทะเลาะกับใคร เราทะเลาะกับตัวเองเพื่อจะเอาข่าวที่ดีมานำเสนอ
ผมไม่ได้ไปรับงานใคร ไม่ได้ไปรับเงินใคร เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ได้โปรดเข้าใจ เรามีแต่ข่าวจริง ไม่มีเฟก...
ต้องบอกตามตรงว่า อ่านแล้วหล่อมากสำหรับเจ้านาย "ฉาย บุนนาค" และ ห้าวเป้งมากสำหรับ"ประชาไท" คิดเห็นกันอย่างไรเชิญเม้นต์กันเข้ามา !!