“ก่อแก้ว” เชื่อศึกซักฟอกขอดเกร็ดตั้งแต่สมัย คสช. ปูดวิ่งแจกกล้วยขาขวิด หวังดันคะแนนโหวต “บิ๊กตู่” เหนือ รมต.คนอื่น
นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ได้กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรวม 6 คน ในวันที่ 25-27 ก.พ.นี้ ว่า เป็นที่สนใจของคอการเมืองอย่างยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะจะถูกตรวจสอบจากสภาผู้แทนราษฎร หลังจากอยู่ในอำนาจมากว่า 5 ปีโดยปราศจากการตรวจสอบจากองค์กรใดๆ ทำให้ใช้อำนาจไปอย่างเต็มที่ตามอำเภอใจ ไม่สนใจหลักกฎหมาย ไม่สนใจเสียงของประชาชน กรรมใดที่เคยก่อไว้ตั้งแต่ยุค คสช.จนถึงปัจจุบัน ก็จะถูกขุดมาประจาน ขอดเกร็ดกันอย่างถึงพริกถึงขิง แต่จะถึงจุดไคลแม็กซ์หรือไม่ คงตอบยาก เพราะผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจทำให้ดาวสภาหลายท่าน ไม่ได้เข้าสภาอย่างที่ควรจะเป็น
“ผมเห็นด้วยที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่นายกฯและรัฐมนตรีสาย คสช. เพราะมีบาดแผลเยอะแยะ ในขณะที่รัฐมนตรีของ ครม.ชุดนี้ที่มาจากฝ่ายการเมือง ยังไม่มีแผล หลายคนก็ทำหน้าที่ได้ดี พยายามตอบสนองต่อปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกทอดทิ้งมานาน ไม่ว่า คุณอนุทิน ชาญวีรกูล, คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์, คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ, คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถึงแม้บางกระทรวงผลงานอาจจะยังไม่บรรลุผล แต่อย่างน้อยก็มีความพยายาม“ นายก่อแก้ว ระบุ
นายก่อแก้ว กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ปกติแล้ว เมื่อใดที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สังคมจะลุ้นกันว่าฝ่ายค้านจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ หรือรัฐมนตรีท่านใดจะถูกปรับออก แต่สำหรับตน วิเคราะห์ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คงไม่สร้างการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ถึงแม้ฝ่ายค้านจะอภิปรายดีอย่างไร ข้อมูลเด็ดแค่ไหน แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เกิดความอายจนทนไม่ไหว จนทำการยุบสภาแล้ว ทั้ง 6 ท่านคงผ่านการโหวตอย่างสบายๆ โดยเฉพาะเสียงโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเหนือกว่าท่านอื่นๆอย่างแน่นอน ที่ประเมินอย่างนี้ เพราะรัฐบาลจะมีกล้วยงามๆมาล่อใจฝ่ายค้านบางคนให้โหวตสนับสนุน ในขณะพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้จะคล้อยตามข้อมูลของฝ่ายค้าน แต่คงยังไม่พร้อมที่จะแยกตัวออกมา
“ผมขอทำนายว่านอกจากพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ออกแล้ว ยังมีฝ่ายค้านบางคนที่ทำตัวเป็นงูเห่า เผลอไผลไปกับความอร่อยของกล้วยลูกงาม จะถูกพรรคที่ตนเองสังกัดทำการไล่ออกแทน และถ้าเป็นอย่างที่ผมวิเคราะห์ไว้จริง คงเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมือง แต่เป็นประวัติศาสตร์อัปยศ ที่ไม่อยากเห็น” นายก่อแก้ว กล่าว.