คอบร้าโกลด์2020 เข้มโคโรนาคัดทหารกว่า 9 พันนาย 29 ประเทศ เฝ้าระวังวัดอุณหภูมิ 2 เวลา ทำความสะอาดเนี้ยบ เกาหลีฯงดส่งหวั่นไวรัส ไฮไลท์ฝึกต้านสงครามไซเบอร์ ปีแรก สหรัฐฯคืนสัมพันธ์ทุกระดับ ส่งเอฟ-35จำนวน 6 ลำร่วม
วันนี้ (14ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ถ.แจ้งวัฒนะ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร พร้อมด้วยนายไมเคิล ฮีธ อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงรายละเอียดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2020
โดยพล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า การฝึกคอบร้าโกลด์เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิกร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปีโดยในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 39 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ส่วนประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน 2 ประเทศ ได้แก่ จีน และอินเดีย ขณะที่ประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติหรือ MPAT ที่ฝ่ายสหรัฐฯ เสนอ จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์และฟิจิ ด้านประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกที่ฝ่ายไทยเสนอ จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ ลาว เวียดนาม บรูไน เมียนมา ปากีสถาน กัมพูชา อิสราเอล เยอรมนี สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งสิ้น 29 ประเทศ ยอดผู้เข้าร่วมการฝึกฯ จำนวนมากกว่า 9,000 นาย ประกอบด้วย ไทย 3,750 นาย สหรัฐฯ 5,500 นาย สิงคโปร์ 47 นาย ญี่ปุ่น 142 นาย อินโดนีเซีย 50 นาย มาเลเซีย 51 นาย จีน 32 นาย และอินเดีย 13 นาย
เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธ์ร่วมผสมและประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ และเพื่อการฝึกใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติ
ขณะที่สาธารณรัฐเกาหลีจากเดิมที่ส่งกำลังพลฝึก300นายเดิม แต่ล่าสุดแจ้งของดส่งคนร่วมในครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว รวมถึง กำลังพล30 นายที่จะร่วมฝึกในที่บังคับการด้วย และได้รับการยืนยันว่าเรือจากเกาหลีใต้จะไม่เทียบท่าในไทยแน่นอนเพราะต้องเฝ้าระวังไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19
สำหรับในการฝึกคอบร้าโกลด์ 2020 รูปแบบการฝึกฯ เป็นการฝึกวงรอบปี Heavy Year มีขอบเขตการฝึก ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่บังคับการ โครงการช่วยเหลือประชาชน การฝึกภาคสนาม
สำหรับปีนี้ ไฮไลท์ ทางสหรัฐได้จัดเครื่องบิน F-35 จากฝูงบิน 121 หน่วยนาวิกโยสหรัฐ 31 จำนวน 6 ลำ มากับเรือบรรทุกเครื่องบิน USS-us และยังเป็นครั้งแรกที่มีการฝึกรับมือภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์ หรือ Cyber Operations เนื่องจากในปัจจุบัน ทหารมีการติดต่อสื่อสาร ระบบการควบคุมการบังคับบัญชา ผ่านระบบ ไซเบอร์ ตลอดจนภาคธุรกิจ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคาม ที่ทุกประเทศต่างประสบปัญหา จากผู้ก่อเหตุ และผู้ก่อการร้าย ซึ่งการฝึกครั้งนี้ จะวางระบบการติดต่อสื่อสาร รับมือการโจมตี หรือการแฮก ระบบ และการฝึกครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะปัจจุบัน ไซเบอร์ ถือเป็นอาวุธ หนึ่งในการทำสงคราม
ส่วนข้อกังวล ถึงปัญหาการติดเชื้อโคโรนา (โควิช -19) เนื่องจากมีกำลังพลจากประเทศจีน 32 นาย จะเดินทางมาร่วมการฝึกการช่วยเหลือประชาชน นั้น เสนาธิการทหาร ย้ำว่า เราได้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีทหารจีน จำนวน 6 นาย เข้ามาในไทยแล้ว อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งพักที่ค่ายเอกาทศรส บางส่วน อีกส่วนพักที่โรงแรม โดยมาเพื่อก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ ร่วมกับทหารไทย และสหรัฐอเมริกา และในจำนวน 6 รายนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดมากนัก และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็ผ่านการคัดกรองตามมาตรฐานของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก สำนักงานแพทย์กองบัญชาการกองทัพไทย ในการวัดอุณหภูมิไม่เกิน 37 . 5 องศา จากนั้นก็เฝ้าสังเกตการณ์เพิ่มเติม ว่ามี อาการไอ น้ำมูกไหล หรือไม่ ซึ่งมีการตรวจวัดไข้ทุกวันก่อนไปทำงาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และหากมีอาการ ก็จะรับทราบอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ในพื้นที่ส่วนรวม เช่นบริเณค่าย โรงแรม โต๊ะอาหาร ที่จับประตู จะมีการทำความสะอาดตลอดเวลา ใช้น้ำยาเดทตอล เช็ดถูตลอดเวลา
ส่วนอีก 28 นาย จะเดินทางมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามบินอู่ตะเภา ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินการกับ 29 มิตรประเทศ ที่มาร่วมฝึกนั้น ทางประเทศต้นทาง จะมีการตรวจคัดกรอง และมีใบรับรองแพทย์ กำลังพลทุกนายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมฝึก ทั้ง 9,655 นาย และให้มองว่าทหารจีน ไม่มีความเสี่ยง ในการติดเชื้อ เพราะต้องอยู่ร่วมกันและจะส่งผลให้การฝึกไม่รายรื่น
ขณะที่ตัวแทนของสหรัฐอเมริกา กล่าวแสดงความมั่นใจและขอบคุณในขั้นตอนการคัดกรองของไทย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของการฝึกครั้งนี้ คือ สวัสดิภาพ และความปลอดภัยของกำลังพล ของสหรัสอเมริกา
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐในขณะนี้ ยืนยันว่ากลับมาเป็นเหมือนเดิมทุกระดับแล้วภายหลังการเลือกตั้ง และมีรัฐบาลในเดือนเมษายนที่ผ่านมา