ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เมื่อปฏิบัติการโค่น"บิ๊กแป๊ะ"ล่ม หมาคลุมหนังเสือ จึงกลายเป็นหมาหัวเน่า
ไหนๆตอนนี้กระแส "บิ๊กแป๊ะ"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำลังร้อนแรงจากการลงสนามร่วมเป็นร่วมตายกะลูกน้องที่โคราช จนเกิดกระแส "บิ๊กแป๊ะฟีเวอร์" กันทั้งเมือง รวมไปถึง "ผู้กองฮัท" ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา ลูกชายคนโต พลันก็มีข่าวว่า ก่อนหน้านี้หลังจาก "ฟ้าผ่า" ลงมาชัดๆ แล้ว บรรดาเจ้าของและทีมงานสื่อจอมอหังการทั้งหลาย ขอนัดเคลียร์ใจกับ "บิ๊กแป๊ะ" กันกลางเมืองทีเดียว
น่าสังเกตตั้งแต่แรกแล้วว่า ทำไม "เจ้าของสื่อค่ายใหญ่" ขาใหญ่ในตลาดหุ้น ปล่อย "ลิ่วล้อคนสนิท" ที่นั่งบริหารสื่อในเครือของตัวเองปฏิบัติ บดขยี้ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ชนิดที่โจมตีเสียๆ หายๆ พาดหัวตัวไม้อยู่สื่อเดียวต่อเนื่อง หลังๆ ลามไปถึงลูกชายบิ๊กแป๊ะ อย่างไม่สนใจความเป็นไปของโลกข่าวสาร
ปฏิบัติการด้วยความอหังการ จงใจตี"บิ๊กแป๊ะ" เพื่อแซะให้หลุดจากเก้าอี้ ผบ.ตร. ว่ากันว่า เพื่อหวังเอาใจ "บิ๊กบราเธอร์" ผู้มากบารมีในวงอำนาจรัฐ จัดให้ โดย"ลิ่วล้อ"ที่ได้ชื่อว่าเป็น "สื่อหิว" จอมเชลียร์
คนคนนี้ มีชื่อเสียงในวงการ อยู่กับใครก็พาเข้ารับใช้ผู้มีอำนาจ ตัวเองก็พลอยได้ดิบได้ดี มีที่นั่งข้างๆ ด้านขวาเวลาประชุมวางแผนกลยุทธ์ข่าวกับ "บิ๊กบราเธอร์" โดยที่เจ้าของสื่อรู้เห็นเป็นใจ เออออห่อหมกหนุนหลังเต็มที่
ของแบบนี้สื่อด้วยกันดูออก พอถูกทักจากเพื่อนสื่อร่วมอาชีพ เรื่องจรรยาบรรณของสื่อที่ดีด้วยความหวังดี แต่คนในกลุ่มสื่อหิวพวกนี้กลับตอบแทนด้วยคำพูดท้าทายผ่านไลน์ว่า "อยากจะรบกันใช่มั้ย"
แต่ความจริงก็คือความจริง ประเด็นจะแซะ ผบ.ตร. ชัดเจนว่า “บิ๊กแป๊ะ”ได้ไปต่อ ด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร
ขณะที่สถานการณ์เหตุสลดที่โคราช ยังทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และลูกชาย ได้รับเสียงชื่นชมยกย่องจากสังคมถึงความทุ่มเท กล้าหาญ แสดงออกถึงภาวะผู้นำในยามวิกฤต นำทีมลงพื้นที่คลี่คลายเหตุด้วยตัวเอง ยิ่งตอกย้ำตัวตนที่แท้ของ ผบ.ตร. คนนี้
ครั้นกระแสไม่ได้ ก็แว่วว่า งานเข้าอีก หลังผลงานครั้งนี้รู้ถึง "บิ๊กบราเธอร์" ต้องเต้นผาง เมื่อรู้ความจริงว่า ตัวเองถูกอ้างชื่อเป็นคนให้ "ใบสั่ง" อยู่เบื้องหลังเปิดวอร์ แซะ"บิ๊กแป๊ะ" แคนนอนไปหา"บิ๊กตู่" ในเกม "ทวงคืนอำนาจคุมตร." ที่ใครๆ ก็จับตามอง ก่อนที่เรื่องไปกันใหญ่ "บิ๊กบราเธอร์" จึงออกมาดับไฟเอง
ว่ากันว่า "บิ๊กบราเธอร์" ได้สั่งให้ "พลเอก" คนสนิทเรียกคนสื่อจอมเชลียร์ที่นั่งเป็นกุนซือ ให้พาเจ้านายขาใหญ่ตลาดหุ้น และ "มาดาม" ซึ่งก็เป็นคนคุ้ยเคยกันในงานการเมืองอยู่แล้ว นัดแนะกันเข้าไปพบ เผชิญหน้ากับ "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ กลางเมืองเมื่อเร็วๆ นี้
งานนี้เรียกว่า "พลเอก" รับคำสั่งมาอย่างแรกแบบแมนๆ ขอเคลียร์ใจกับ ผบ.ตร ว่า "บิ๊กบราเธอร์" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสั่งการใดๆ ให้สื่อที่อยู่ในมือของเจ้าของขาใหญ่ตลาดหุ้น , มาดาม หรือ ลิ่วล้อจอมเชลียร์ หวดฟาด"บิ๊กแป๊ะ" คุยกันต่อหน้า ผบ.ตร. และขอให้ออกจากปากกลุ่มคนกลุ่มนี้เอง
สอง บิ๊กบราเธอร์ ปัจจุบันไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนเปิดประเด็นเรียกร้องให้ ผบ.ตร. ลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบโครงการไบโอเมทริกซ์ ก่อนที่สื่อค่ายนี้จะนำมาขยายผล
พูดง่ายๆ ว่า เรื่องทั้งหมด “บิ๊กบราเธอร์" ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง !!
ข่าวไม่ได้บอกว่า ระหว่างพูดคุยกับ"บิ๊กแป๊ะ" เจ้าของสื่อหิว มาดาม และลิ่วล้อคนสนิท มีสีหน้าท่าทางอย่างไร เมื่อพลเอกคนสนิท"บิ๊กบราเธอร์" ยืนยันเช่นนี้
เพราะนั่นหมายความว่า กลุ่มคนพวกนี้แอบอ้างชื่อ "บิ๊กบราเธอร์" ผู้มีบารมีโจมตี ผบ.ตร.เอง ส่วนจะมุ่งหวังอะไร ก็น่าขบคิด
มองๆดู "ทฤษฎีสมคบคิด" ก็เป็นไปได้หมด ตั้งแต่ตั้งใจเอาใจ "บิ๊กบราเธอร์" สร้างผลงานความดีความชอบ เพราะสื่อค่ายนี้เสนอตัวรับใช้อำนาจรัฐเต็มตัว เล่นใหญ่ประเภทจ้างร้อยแสดงหมื่น
ไม่ใช่เล่นใหญ่แค่หน้าสื่อตัวเอง งานใต้ดินก็จัดหนักชนิดว่ากันว่า เบื้องหลังใบปลิวที่โจมตี "หลังบ้าน" ผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่ามีเอี่ยวกับโครงการไบโอเมททริกซ์ ก็เป็นฝีมือของคนกลุ่มนี้
ขึ้นนชื่อเป็นสื่อหิวกระทำการได้ทุกอย่าง หวังให้คนมีอำนาจประทับใจ ตัวพวกเขาเองทั้งเจ้าของสื่อขาใหญ่ตลาดหุ้น มาดามหลังบ้าน และลิ่วล้อจอมเชลียร์ ก็ยิ่งมั่นคง หวังว่าจะหยั่งเท้าในวงการเมืองไปยาวๆ เรื่องอะไรต่อมิอะไรที่ทำไว้ โดยเฉพาะในตลาดหุ้น มีร่องรอยก็เชื่อว่าจะกลบลบรอยไปได้
จากนี้คงคิดไปว่า จะทำอะไร "เหยียบหิมะก็คงไร้รอย" ซึ่งก็ว่ากันว่า ตอนนี้สถานการณ์ของค่ายมิสู้ดี หุ้นเพิ่มทุนไม่ได้ หุ้นส่วนใหญ่ ก็ไม่ตกลงเพิ่มทุนให้ เงินทองเสบียงที่ได้คืนจากการคืนช่องก็ร่อยหรอลง
ร่ำลือกันว่า ปฏิบัติการข่าวตีแป๊ะ ทำให้คนกลุ่มนี้มี "อำนาจต่อรอง"สูงขึ้น อาจจะได้ "งาน" มาพร้อมๆกับ"ผลประโยชน์" ต่างตอบแทนจากตลาดหุ้น เช่น อาสาจัดการอะไรบางอย่างให้คนที่อยู่ในเครือข่าย "บิ๊กบราเธอร์"ไปด้วย จริงๆ เท็จๆ ยังไม่อาจยืนยัน
ต้องไม่ลืมว่า หลังคำสั่งย้าย รองฯ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา เพื่อนรัก “โจ๊ก”ทำให้หุ้นที่ พล.ต.อ.วิระชัย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ ACE ร่วงหนักมาก เพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ก็เป็นธรรมดาของตลาดหุ้น เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ไร้ซึ่งอำนาจบารมี อนาคตของบริษัทก็คาดเดาได้
เจ้าของสื่อหิว ก็ได้ชื่อเป็นขาใหญ่ตลาดหุ้นย่อมมองออก ของโปรดประโยชน์เยอะแบบนี้ การร่ายมนต์ให้"หุ้นร่วง" กลายเป็น"หุ้นร้อน" มีอนาคตอีกครั้ง ย่อมไม่เหลือบ่ากว่าแรง
"วิน-วิน" เผื่อวันข้างหน้าตีไปตีมา แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจใน ตร. ตัวละครที่เคยย้ายไปได้ย้ายกลับสู่เส้นทาง ตร. อะไรก็เกิดขึ้นได้ เคลื่อนไหวครั้งนี้มีแต่ได้ สองเด้งสามเด้งแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบ
นี่เป็นเพียง "ทฤษฎีสมคบคิด" ที่หลายคนอาจจะคิดไปกันได้
แต่ความเป็นไปตอนนี้คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต !
เมื่อ"บิ๊กบราเธอร์" ออกโรงยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเกมถล่ม"บิ๊กแป๊ะ" คดีพลิกจากกระแส "บิ๊กแป๊ะฟีเวอร์" อีก แผนการทั้งหมดส่อแววคว้าน้ำเหลว
งานนี้ หมาที่เอาหนังเสือมาคลุม จึงกำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่า !!
**"แรมโบ้อีสาน" จัด 22 อรหันต์ ล้วนคนคุ้นเคยฝ่ายค้าน ใครขุดเรื่องอดีตซักฟอก“รัฐบาลลุงตู่”เจอย้อนศรแน่
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ“22 อรหันต์”วอร์รูมตอบโต้ฝ่ายค้านในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มี “แรมโบ้อีสาน”สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวเรือใหญ่ โดยได้ประชุมกันนัดแรก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เพื่อหารือเตรียมข้อมูลที่เข้าข่ายเป็น “ไส้เน่า” ในอดีตของฝ่ายค้าน ไว้ป้อนส.ส. และรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
“แรมโบ้อีสาน”ยอมรับตรงๆว่า การตั้งวอร์รูม “22 อรหันต์”ก็เพื่อป้องปราม ส.ส.ฝ่ายค้าน ให้อภิปรายอยู่ในกรอบการบริหารงานของ “รัฐบาลลุงตู่”ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมานี้เท่านั้น อย่าได้แหลมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นอันขาด เพราะถือว่าเป็นรัฐบาลคนละชุดกัน แต่ถ้าไม่ยอมฟังกันละก็ “22อรหันต์”พร้อมสวนหมัดต่อหมัด ทั้งส่งข้อมูลให้ส.ส.พลังประชารัฐ ในสภาฯ และจะเปิดโต๊ะแถลงตอบโต้นอกสภาฯ ทันที
แรมโบ้อีสาน ยืนยันว่า ฝ่ายค้านต้องอภิปรายอยู่ในกรอบการบริหารงานของรัฐบาล 7 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่ควรที่ย้อนกลับไปอภิปรายเรื่องในอดีต "ยุครัฐบาล คสช." ไม่งั้นเราก็จะย้อนแถลงตอบโต้ในยุคอดีตรัฐบาล “ทักษิณ ไทยรักไทย”และ ยุครัฐบาลพลังประชาชน ของ"นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" รวมทั้งยุครัฐบาล"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เช่นกัน ว่าใครมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชนอย่างไรบ้าง เป็นการย้อนศรกลับไปยังฝ่ายค้านเช่นกัน โดยทีมวอร์รูมทั้ง 22 อรหันต์ จะนัดประชุมกันอีกครั้งเพื่อเช็กความพร้อม ในวันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ.นี้
มาไล่รายชื่อกันดูว่า“22 อรหันต์”มีใครกันบ้าง เริ่มจาก 1. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หัวหน้าทีม มีดีกรีเป็น อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และเคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน เรียกได้ว่าเคยเป็นคนในที่ "รู้ไส้รู้พุง" ของคนในพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี
2.นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย 3. นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อมาเป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
4. นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ"วิปรัฐบาล" ในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5. นายธีรทัศน์ เตียวเจริญโสภา อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชาชน 6. นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 7. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน 8. นายสิทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชาชน
9. นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย 10. นายเวียง วรเชษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 11. นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย 12. นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน 13. นายธีรยุทธ วานิชชัง 14. นายธเนศ ธำรงค์ทิพยคุณ 15. นายพิกิฎ ศรีชนะ 16. นายทศพล เพ็งส้ม 17. นายเอกภาพ พลซื่อ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 18. นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 19. นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีตสมาชิกกลุ่มริมน้ำ ในพรรคไทยรักไทย 20. นายประนอม โพธิ์คำ 21. นายวัชระ กรรณิการ์ และ 22. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช
เรียกได้ว่าเกือบทั้งหมด ล้วนเคยอยู่ร่วมชายคาบ้าน“ทักษิณ ชินวัตร”ด้วยกันแทบทั้งนั้น จึงรู้ไส้รู้พุง ส.ส.ฝ่ายค้านชุดปัจจุบันเป็นอย่างดี ถ้าไม่เชื่อคำเตือนของ“แรมโบ้อีสาน”ก็ลองดู !!