ส.ส.สระบุรี พปชร. นำชาวปากข้าวสาร-หนองยาว ยื่นคำร้องผู้ตรวจฯ สอบหน่วยงานรัฐเตรียมอนุญาตเอกชนตั้งโรงงานชำแหละไก่ หวั่นก่อมลพิษ ทำขาดแคลนน้ำ
วันนี้ (3 ก.พ.) น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำชาวบ้านต.ปากข้าวสาร และต.หนองยาว ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบหน่วยงานของรัฐในพื้นที่กรณีจะอนุญาตให้บริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม จำกัด สร้างโรงงานฆ่า และชำแหละเนื้อไก่ เพื่อผลิตอาหารแปรรูป โดยน.ส.กัลยา กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงงานได้ซื้อที่จำนวน 278 ไร่ โดยจะมีการวางเงินงวดสุดท้ายในวันที่15 ก.พ.นี้ชาวบ้านมีความกังวล เนื่องจากพื้นที่ที่จะก่อตั้งโรงงานอยู่ในพื้นที่สีเขียว และโดยรอบก็เป็นชุมชนหนาแน่นมีทั้งโรงเรียน วัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะวัดหนองยาวสูง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานกับกรมศิลปากร และวัดหนองเขื่อนช้าง ซึ่งเป็นวัดที่รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จยกช่อฟ้าอุโบสถ นอกจากนี้ที่ดินที่จะก่อสร้างโรงงานยังติดกับคลองหนองยาว เป็นคลองที่ผลิตน้ำประปาสำหรับชาวบ้าน โดยจากข้อมูลการชำแหละไก่ 1 ตัวต้องใช้น้ำ 3 ลิตร ในการทำความสะอาด แต่ถ้าให้เป็นไปตามมาตรฐานฮาลาล จะต้องใช้น้ำ 10 ลิตร ซึ่งทางโรงงานมีเป้าหมายที่จะชำแหละไก่ 3 แสนตัวต่อวัน จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาประชาชนขาดแคลนน้ำ เพราะทางโรงงานจะต้องใช้น้ำจากคลองดังกล่าว รวมทั้งเกรงว่าจะมีการทิ้งน้ำเสียลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงอยากผู้ตรวจฯ เข้าไปตรวจสอบหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ ไม่ให้มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตประกอบกิจการดังกล่าว
“ที่ผ่านมาชาวบ้านร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแต่ทางโรงงานก็ไม่หยุด นายหน้าที่รวบรวมที่ดินขายให้กับโรงงาน พยายามไม่ให้โรงงานรู้ว่าชาวบ้านต่อต้าน ดิฉันไม่อยากให้เกิดเป็นโศกนาฏกรรม โดยชาวบ้านเขาบอกว่าเขาจะกอดระเบิดตาย และถ้าที่สุดมีการก่อสร้างก็จะเกิดคดีความระหว่างชาวบ้านกับโรงงาน รบกันไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนในอดีตที่ชาวบ้านได้มีการร้องการกรณีปัญหาบ่อขยะ ที่จังหวัดสระบุรี ที่ได้ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี”
ด้านตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า โรงงานไม่มีความจริงใจ ไม่เคยลงมาพูดคุยกับชาวบ้านโดยตรง มีแต่ส่งตัวแทน หรือนายหน้ามีเจรจา และเวลานี้นายหน้าเริ่มมีการใช้เงินซื้อเสียงชาวบ้านคนละ 500-1,000 บาทเพื่อในการทำประชาพิจารณ์ให้มีการสนับสนุนการสร้างโรงงาน