“เศรษฐพงค์” ห่วงรัฐสภาไร้ระบบป้องกันภัยยุคใหม่ แนะเร่งปรับปรุงระบบให้ทันสมัย ด้าน “ภราดร” ส.ส.อ่างทอง ห่วงสุขภาพ ปชช. ขอพื้นที่ทำสวน-เลนจักรยาน-ทางวิ่ง ส่วน “สฤษดิ์” ส.ส.ปราจีนฯ วอนรัฐดูแล อปพร.ให้มากขึ้น
วันนี้ (30 ม.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้นำเสนอประเด็นสำคัญต่อการดูแลประชาชนและยกระดับมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญ โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย หารือถึงการยกระดับมาตรการรักษาและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อาคารรัฐสภา หลังจากที่เฝ้ามองดูด้วยประสบการณ์ส่วนตัวด้านการต่อต้านก่อการร้ายสากล ทำให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยของรัฐสภาที่มีบุคคลสำคัญตั้งแต่นายกฯ จนถึงประชาชนทั่วไปผ่านเข้าออก แล้วพบว่าระบบความปลอดภัยของรัฐสภายังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ ทั้งนี้ ระหว่างการก่อสร้างทราบว่ารัฐสภาถูกตัดงบประมาณจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้หน่วยรัฐสภาที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่ปลอดภัยรูปแบบใหม่ ทั้งการโจมตีไซเบอร์ การโจมตีทางกายภาพ ทั้งโดรน และระเบิดที่ไม่เหมือนเดิม เช่นสารเคมี ดังนั้น แนวทางที่สำคัญคือการบูรณาการระบบสารสนเทศด้านการสื่อสารที่จำเป็น และก้าวหน้า
ต่อมานายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือฝากไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้พิจารณาการขยายการให้บริการห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เพราะปัจจุบันห้องฉุกเฉินดังกล่าวมีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อการรองรับการให้บริการกับประชาชน ขณะเดียวกัน เพื่อสุขภาพของประชาชน ขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรพื้นที่ออกกำลังกายให้ประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ย่านซื่อ อ.เมืองฯ จ.อ่างทอง ที่พบพื้นที่สาธารณะกว่า 607 ไร่ ดังนั้น ควรพิจารณาเพื่อจัดทำพื้นที่สวนสาธารณะ ขณะที่พื้นที่ ต.รำมะศักดิ์ จ.อ่างทอง บริเวณบึงรำมะศักดิ์ที่พบว่ามีพื้นที่กว้างขวางสามารถจัดสรรพื้นที่ทำเลนจักรยานและทางวิ่งเพื่อสุขภาพให้ประชาชนได้
ขณะที่นายสฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย หารือถึงมาตรการดูแลอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) โดยระบุว่า ขอให้รัฐบาลจัดมาตรการตอบแทนในลักษณะการให้รางวัลชีวิต หรือการดูแลสุขภาพให้แก่ อปพร.เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีของ อปพร.ช่วงเดือน มี.ค.นี้ด้วย
