“อนาคตใหม่” แลกหมัดเปิดคลิป “พลังประชารัฐ” เสียบบัตรแทนกฎหมายรัชกาลที่ ๑๐ ระบุเป็นพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอของ น.ส.ธณิกาญจน์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2562 ในเวลา 13.41 น. เลขที่บัตร 150 โดยเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับหนึ่ง ซึ่ง น.ส.ธนิกาญจน์ได้ลงคะแนนเห็นด้วย ขณะเดียวกัน ในวันดังกล่าวเวลา 13.42 น.ได้มีภาพไลฟ์สดของ น.ส.ธณิกาญจน์ในการไปร่วมรายการแบ่งปันความรู้บทบาทแม่แห่งยุคดิจิทัล ที่สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ นอกจากนี้ยังมีกรณีนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่เสียบบัตรแทนกันถึง 3 ครั้งในระหว่งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งในกรณีของพรรคพลังท้องถิ่นไทยนั้นมีจำนวนเก้าอี้และเครื่องเสียบบัตรเพียงพอต่อจำนวน ส.ส.ของพรรค ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝากบัตรลงคะแนนไว้กับ ส.ส.คนอื่นแต่อย่างใด
นายณัฐชากล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมสภาฯ พ.ศ. 2562 ข้อ 80 กำหนดให้การออกเสียงลงคะแนนของ ส.ส.จะกระทำแทนกันมิได้ แต่ยังกลับมีการลงคะแนนแทนกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ส.ส.ที่กระทำการเหล่านี้ไมได้เกรงต่อข้อบังคับการประชุมสภาฯ ดังนั้น จากกรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการลงคะแนนแทนกันเป็นภาวะของรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอย่างยิ่ง ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้เสนอญัตติด่วนเมื่อวันที่ 29 ม.ค.เพื่อให้ที่ประชุมสภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการลงคะแนนแทนกันของ ส.ส. เพื่อให้เกิดบทลงโทษและการหาแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตต่อไป โดยที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้ง อันเนื่องมาจากข้อบังคับการประชุมสภาฯกำหนดแต่ข้อห้ามแต่ไม่กำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน จึงคิดว่าหากมีการกำหนดบทลงโทษที่หนักและชัดเจน จะไม่มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งคนที่ฝากบัตรและรับฝากบัตร
“วันนี้ไม่ใช่แค่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แต่เป็นรัฐบาลบัตรข้างมากมากกว่า เพราะทุกญัตติ ทุกโอกาส จะเกิดการเสียบบัตรแทนกันเพื่อเอาชนะทางการเมือง โดย ส.ส.ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกรงต่อข้อบังคับการประชุมสภาฯ ดังนั้น หากไม่มีการแก้ไขก็จะไม่เกิดการถ่วงดุลตรจสอบ เพราะรัฐบาลจะชนะโหวตทุกครั้งเสมอ” นายณัฐชากล่าว
ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การลงคะแนนแทนกันไม่สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 120 ที่กำหนดให้ ส.ส.มีหนึ่งเสียงในการออกเสียงลงคะแนน ประกอบกับมาตรา 114 ที่กำหนดให้ ส.ส.ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และมาตรา 185 ว่าด้วยการที่ ส.ส.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้น เราต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.ต้องปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริตและตรงไปตรงมาตามมาตรฐานทางจริยธรรม
นายธีรัจชัยกล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เป็นกฎหมายที่ความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภาษีของประชาชน ดังนั้น ส.ส.จะต้องไม่มีการลงคะแนนแทนกัน โดยจะต้องลงคะแนนออกเสียงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การเสนอญัตติครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องเพื่อวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ เนื่องจากกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามอำนาจตุลาการที่จะทำหน้าที่ชี้ขาดข้อพิพาท แต่การเสนอญัตติเป็นการศึกษาหาข้อมูลเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในอนาคตต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐชาได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมกับแนบเอกสารผลการลงคะแนนของน.ส.ธณิกาตน์ โดยระบุว่าเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ ๑๐