“ชูวิทย์” เปิดศักราชวิเคราะห์เกมการเมืองอย่างแหลมคม ฟันธงอนาคต “ส้มหวาน” จุดจบไม่ใช่ 21 ม.ค.แน่นอน เขียนติดข้างฝาได้เลย ยังมีช็อตเด็ดกว่า!!!
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(12 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ หัวข้อ “อนาคต...?”
โดยระบุ “การดำรงอยู่ของพรรคการเมืองแต่ละพรรคไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพรรคที่ได้รับ ส.ส. ในสภา บางพรรคเป็นพรรคเฉพาะกิจ อยู่ได้แค่ชั่วครั้ง ชั่วคราว หมดคนมีบารมี ก็หมดทาง บางพรรคอยู่ได้นาน แต่ไม่ได้ทำประโยชน์อันใดเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะเอาแต่เล่นการเมือง มัวเมาหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ส่วนอุดมการณ์สูญหายไปนานแล้ว พร้อมกับสายลมแรงแห่งกิเลส
พรรคอนาคตใหม่ ได้รับ ส.ส. มาทะลุเป้า แต่การต่อสู้ทางการเมืองในสภาฯไม่ประสบความสำเร็จ แถมเสียท่าให้งูเห่าไปฟรีๆ
เมื่อเกมในสภาฯไม่เคยล้มรัฐบาลได้ จึงต้องเล่นนอกสภาฯ หากไม่เชื่อลองดูตัวอย่าง กปปส. ที่ล้วนได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า แถมตอนนี้พรรคเพื่อไทยก็อ่อนแรง ไม่มีอะไรสักเรื่องที่จะไปกระเทือนซางรัฐบาลได้ ต้องหันไปพึ่งของเก่าของขลังอย่างสารวัตรเฉลิม ที่ดูๆ แล้วคงปลุกของขึ้นลำบาก เพราะตัวเองไม่ได้มา เป็นได้แค่ติวเตอร์นอกสภาฯ ส่วนที่อยู่ในสภาฯล้วนลีลายังไม่ถึง
แต่เกมนอกสภาฯนั้น มักมีต้นทุนสูงลิ่ว และต้องพร้อมที่จะเทหมดหน้าตัก กล้าได้ กล้าเสีย
อนาคตใหม่ต้องรอดูสถานการณ์สุกงอมให้มากกว่านี้ เดี๋ยวได้รู้กันว่าจะเดินตามรอยรุ่นพี่อย่างพรรคไทยรักษาชาติไหม
คนรุ่นใหม่ต้องเหนื่อยกว่าจะได้ ส่วนคนรุ่นเก่าตอนนี้กินของเก่ากันเพลิดเพลินใจ
ที่แน่ๆ กาไว้ข้างฝา ไม่ใช่วันที่ 21 นี้แน่นอน เพราะยังมีอีกช็อตที่เด็ดกว่านี้
หากไม่รักกันจริง ไม่มาบอกกันนะเนี่ย”
แน่นอน, ในความหมายของ “ชูวิทย์” อาจหมายถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดียุบพรรคอนาคตใหม่ ตามคำร้องของ นายณฐพร โตประยูร ในวันที่ 21 ม.ค.2563 เวลา 11.30 น. นั่นเอง
โดยเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2562 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีนายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้องที่ 2 นายปียบุตร แสงกนกกุล ผู้ถูกร้องที่ 3 และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 4 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข หรือไม่
ซึ่งผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ในคดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันอังคารที่ 21 ม.ค.2563 เวลา 11.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนช็อตเด็ดกว่าที่ นายชูวิทย์ กล่าวถึง อาจหมายถึง
กรณีนายธนาธร หัวหน้าพรรค ให้พรรคอนาคตใหม่ กู้เงินจำนวน 191.2 ล้านบาท อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย
กรณีนี้ศาลรัฐธรมนูญได้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.62
ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ แล้ว
เห็นว่า เป็นกรณีที่ กกต. กล่าวอ้างว่า ผู้ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 ซึ่งบัญญัติว่า
"ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย"
เมื่อผู้ร้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกร้องได้กระทำการอันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 (13) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่ง จากนั้นจะได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบ และส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
ทั้งสองกรณี ยังถือว่า ออกได้ทั้งสองหน้า คือ เป็นคุณกับพรรคอนาคตใหม่ คือ ยกฟ้อง หรือ ตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามที่นักกฎหมายหลายคนแทบจะฟันธงว่า ดูจากข้อเท็จจริงแล้ว ไม่น่ารอด เว้นเสียแต่ศาลจะตีความอย่างไรเท่านั้น
แต่สำหรับ “ชูวิทย์” โพสต์ของเขาวันนี้ ไม่รู้ไปได้ข้อมูลเบื้องลึกมาจากไหนหรือไม่ จึงกล้าบอกให้เขียนติดข้างฝาเอาไว้ได้เลย ว่า วันที่ 21 ไม่ใช่ “แต่ยังมีช็อตเด็ดกว่า” หรือแปลไทยเป็นไทย ก็คือ ถึงอย่างไร “อนาคตใหม่ ก็ไม่รอด” นั่นเอง???