xs
xsm
sm
md
lg

แผนเด็กอมมือ! “ศรีสุวรรณ” จวกยับ "แฟลซม็อบ" จงใจให้ตำรวจจับ ชิงพื้นที่ข่าวกล่าวหา “เผด็จการรังแก”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศรีสุวรรณ จรรยา” จวกยับ “อนค.” จงใจทำ “แฟลซม็อบ" ฝ่าฝืนกฎหมายให้ตำรวจจับ ชิงพื้นที่ข่าว กล่าวหาเผด็จการ “กลั่นแกล้งรังแก” แผนเด็กอมมือใครก็รู้!!!

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(11 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ของนายศรีสุวรรณ จรรยา ฉายา “นักร้อง(เรียน)”และเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โพสต์ข้อความระบุว่า

“การที่หัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรคปลุกระดมมวลชนมาชุมนุมเพื่อปกป้องความผิด อันเกิดจากความสับเพร่าของตนเอง ที่เรียกว่า "แฟลซม็อบ" โดยปฏิเสธที่จะแจ้งหัวหน้าสถานีตำรวจท้องที่ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 นั้น

บัดนี้เป็นประจักษ์โดยชัดแจ้งว่า เป็นพฤติการณ์ฝ่าฝืนกฎหมายโดยมีเป้าหมายที่วางแผนไว้ล่วงหน้า นั่นคือ การช่วงชิงพื้นที่ข่าวธรรมดาของเด็กอมมือเขาทำกัน เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ก็จะตีโพยตีพายว่า "ถูกกลั่นแกล้ง" พร้อมปลุกระดมสาวกให้มาร่วมแสดงพลัง ในวันที่ต้องไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

พร้อมกับกล่าวหาฟาดงวงฟาดงาว่า "เป็นความพยายามของเผด็จการที่ทำให้ประชาชนกลัวและสิ้นหวังเพื่อที่พวกเขาจะได้ครองอำนาจต่อไป"

กรณีแฟลซม็อบที่เกิดขึ้นเป็นจงใจเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 หลายมาตรา เมื่อฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยการออกหมายเรียกมาสอบสวนเป็นไปตาม ป.วิ.อาญา มันเกี่ยวกับเผด็จการตรงไหน

แต่ถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดีซิครับ อาจเจอ ป.อ.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ การปลุกเร้าสาวกให้เข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายในทางที่ผิด ไม่ใช่วิสัยของคนรุ่นใหม่ แต่อย่างใด หากแต่เป็นพวกหลงตัวเอง หลงยุค ที่รังแต่จะนำพาสาวกและพลพรรคเข้าคุกเข้าตารางเท่านั้นครับ #กล้าทำผิดก็ต้องกล้ายอมรับผิดครับ

สอดรับกับก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหว ของ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่นำเอาเรื่องที่นายธนาธร และพวก ถูกหมายเรียกจากตำรวจ มาขยายผลอย่างต่อเนื่อง ว่า มีความพยายามจากเผด็จการที่จะกลั่นแกล้งรังแก ทั้งที่การชุมนุมเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญ 2560 รองรับอยู่แล้ว

หรือแม้แต่ การวางจังหวะโอกาสที่จะเข้าพบตำรวจ ก็เลือกเอาวันเวลา(10 ม.ค.63)ที่ใกล้กับกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง”(12 ม.ค.63) ซึ่งสาวกเครือข่ายนักศึกษา เป็นผู้จัด เพื่อปูกระแสดิสเครดิตและโจมตีเผด็จการอย่างต่อเนื่อง

เพราะเชื่อมั่นอยู่แล้วว่า ในวันที่ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน จะต้องมีสาวกไปให้กำลังใจจำนวนมากอยู่แล้ว และก็จะได้ฉวยโอกาส สร้างวาทกรรมทางการเมือง ผ่านสื่อโจมตีเผด็จการด้วย อย่างเช่น “ไม่ถอยไม่ทน เผด็จการทำให้เรากลัว เราจะไม่กลัว ฯลฯ”

และสอดรับกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความในไอจีส่วนตัว Thanathorn.ig ระบุว่า...

“ผมมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียกอันเกี่ยวเนื่องจากกิจกรรม #ไม่ถอยไม่ทน ที่สกายวอล์คปทุมวันเมื่อกลางเดือนธันวาคม(14 ธ.ค.62)ที่ผ่านมา

นี่คือความพยายามของเผด็จการที่จะทำให้ประชาชนกลัวและสิ้นหวังเพื่อที่พวกเขาจะได้ครองอำนาจต่อไป

หากเราไม่กลัว หากเรายังมีความหวัง และหากเราสามัคคีรวมพลังกัน ลุกขึ้นยืนยันสิทธิเสรีภาพของประชาชน เผด็จการก็ไม่สามารถทัดทานพลังของเราได้

ผมจะไม่กลัว ไม่ถอย ไม่ทน และสู้ต่อไปเพื่ออนาคตที่สดใส ปลอดภัยจากเผด็จการ

ขอให้ปี 2563 เป็นปีแห่งความกล้าหาญของประชาชน”

ภาพจากแฟ้ม
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ม.ค.63 ที่ สน.ปทุมวัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเขต 5 นครปฐม, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล และน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ รวมทั้งหมด 5 คน เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62

นายธนาธร กล่าวก่อนรับทราบข้อหาว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ และ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิชและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์นั้น อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ประชุมสภาฯ หากแล้วเสร็จจากการทำหน้าที่ส.ส.ก็จะมาพบเจ้าหน้าที่ในภายหลัง

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เสรีภาพของประชาชนถูกลิดรอนสิทธิ อย่างนายไพรัฎฐโชติก์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมที่บ้าน 2 วันติด วันแรกไปถ่ายรูปบ้าน วันที่ 2 ส่งเจ้าหน้าที่ 5 คนมาพูดคุย

ตนอยากบอกว่า เผด็จการพยายามทำให้เรากลัว ถ้าเราไม่กลัว เราจะไม่แพ้ สำหรับคดีนี้ตนไม่มีความกังวลใด เพราะการดำเนินคดีเป็นเรื่องแรงจูงใจทางการเมืองมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย

ที่ผ่านมาก็มีกรณีแบบนี้ ตนขอยกตัวอย่างคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่นั้น ในชั้นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของกกต.นั้น ได้ยกคำร้องเรื่องเงินกู้ไปแล้ว แต่ทางกกต.ชุดใหญ่กลับหยิบเรื่องนี้มาพิจารณา และจากเดิมแจ้งว่ามีความผิดในมาตรา66 พอในชั้นศาลรัฐธรรมกลับฟ้องในข้อหาความผิดตามมาตรา72 ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค อันเป็นความตั้งใจทำลายพรรคอนาคตใหม่ ไปไกลกว่าหลักนิติรัฐ ตนไม่เสียเวลาและสมาธิ ขอบคุณทุกกำลังใจ พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้าผลักดันประเด็นนโยบายต่างๆ ต่อไป และจะต่อสู้จนกว่าจะได้ประชาธิปไตย

ภายหลังการให้ปากคำประมาณ 2 ชม. นายธนาธร กล่าวว่า ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มอีก1ข้อหา คือชุมนุมในระยะไม่เกิน 150 เมตร จากพระราชวัง รวมเป็น 5 ข้อหา พวกตนปฏิเสธ หมด จากนี้จะมาอีกทีในวันที่ 3 ก.พ. เพื่อนัดส่งคดีกับทางอัยการ ตนก็ยืนยันว่าจะสู้ไม่ถอย ไม่หมดกำลังใจ จะทำให้ประชาชนเห็นความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ องค์กรอิสระ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ตนขอเชิญชวนประชาชนสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป...

สำหรับ “ศรีสุวรรณ” หรือ ฉายา นักร้อง(เรียน) นั้น ตามประวัติหลังจบจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็เข้าทำงานเป็นเอ็นจีโอ สังกัดมูลนิธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม รณรงค์ด้านสังคมมาตลอด ขณะเดียวกัน ไปช่วยงานสภาทนายความตั้งแต่ปี 2536 เมื่อสภาทนายความเริ่มตั้งแผนกสิ่งแวดล้อม ก็ช่วยงานในส่วนคดีสิ่งแวดล้อม

ทั้งคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ คดีท่าเรือคลองเตย คดีสารตะกั่วคลิตี้ อะไรต่างๆ ช่วยให้คำแนะนำ ให้ข้อปรึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อม

ปี 2548 มีปัญหาโลกร้อน ศรีสุวรรณฟอร์มทีมงานที่อยู่ในสภาทนายความ ก่อตั้ง “สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน” จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเมื่อปี 2550

คดีที่ทำให้คนรู้จักชื่อศรีสุวรรณมากขึ้น คือ กรณีคำพิพากษาองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง ที่ให้รัฐบาลทำประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง ปี 2551-2552

เคยลงสมัคร ส.ว.แต่สอบตก ก่อนหน้านั้น เป็นรองหัวหน้าพรรครักษ์ถิ่นไทย แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

หมวกอีกใบของศรีสุวรรณ คือ “เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ” เป็นตัวตั้งตัวตีตรวจสอบการใช้อำนาจของภาครัฐ ผ่าน ป.ป.ช.และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน... (ข้อมูลจาก คม ชัด ลึก ฉบับ 18 เม.ย.60)

แล้วฉายา นักร้อง(เรียน) ก็ไม่ใช่ ได้มาเพราะโชคช่วย หากแต่เพราะผลงานที่ทำเอาไว้มากมายนั่นเอง

แน่นอน, โพสต์ของศรีสุวรรณครั้งนี้ ก็คือ สิ่งที่อยู่ในใจของใครหลายคน เพียงแต่ขี้เกียจยุ่งกับความคิดแบบเด็กอมมือของคนเหล่านี้เท่านั้น!?


กำลังโหลดความคิดเห็น