“ประวิตร” เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งอนุกรรมการ 15 ชุด เพื่อเร่งรัดแก้ปัญหาที่ดิน ให้ประชาชนได้มีที่ทำกิน
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2563 ที่ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ปลัดกระทรวง และผู้แทนจากกระทรวงต่างๆ และตัวแทนจากกลุ่มสมัชชาคนจนที่นำโดยนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 334/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนลงวันที่ 15 พ.ย. 2562 โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการฯมีรมต.และรมช. รวม11 กระทรวง พร้อมตัวแทนสมัชชาคนจนร่วมเป็นกรรมการด้วย และรับทราบการแต่งตั้ง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ทำหน้าที่เจรจาการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนในคราวการชุมนุมของสมัชชาคนจนช่วงวันที่ 6-23 ต.ค. 62 และให้มีการรายงาน ครม.ทราบเพื่อติดตาม กำกับการแก้ไขปัญหาเชิงบูรณาการร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง
ที่ประชุมได้เห็นชอบเรื่องการให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เร่งรัดขับเคลื่อนการแก้ปัญหาต่อไป และเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรฯเร่งรัดการพิจารณาการขอยกเลิกโครงการก่อสร้าง เขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร และเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ รวมถึงเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณาออกโฉนดที่ดินในเขตที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อ.ปากน้ำโพ, อ.พยุหะคีรี และ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ พ.ศ. 2479
พล.อ.ประวิตรได้กล่าวขอบคุณผู้แทนสมัชชาคนจนที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้เพื่อรับทราบแนวทางการแก้ปัญหาตามที่ได้ร้องขอ ตลอดจนขอบคุณสมัชชาคนจนทุกคนที่ให้ความร่วมมือด้วยดียิ่งกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้กำชับสั่งการหน่วยงาน และกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และรายงานผลให้คณะกรรมการทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็ว นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนให้ได้ผลอย่างจริงจัง โดยจะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง และต้องให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่เป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน ยั่งยืน และขอให้ทุกหน่วยงานจะต้องมีการสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนควบคู่กันไปด้วย
การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6-23 ต.ค. 2562 กลุ่มสมัชชาคนจนจำนวนประมาณ 400 คน ได้เดินทางมาชุมนุมบริเวณถนนลูกหลวง ข้างกระทรวงศึกษาธิการ โดยกลุ่มสมัชชาได้เสนอการแก้ไขปัญหา 35 กรณี รวม 5 กลุ่มปัญหา ได้แก่ เรื่องเขื่อน ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในพื้นที่รัฐ แรงงาน การเกษตร และผลกระทบจากโครงการของรัฐ เอกชน โดยประเด็นเร่งด่วนที่กลุ่มสมัชชาต้องการให้ดำเนินการแก้ไข คือ เรื่องที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ของรัฐ ซึ่งเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 30 กรณี รวม 9 กลุ่มข้อเสนอ และขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ สคจ. เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้านต่างๆ และขอให้นำผลการเจรจาเสนอคณะรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วน
จากนั้น พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ผลการประชุมในวันเดียวกันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาร่วมกับทางสมัชชาคนจนจำนวน 15 คณะ ซึ่งทางฝ่ายสมัชชาคนจนกับรัฐบาลได้ร่วมมือกันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี จากนี้จะได้เดินหน้าแก้ไขปัญหา เร่งรัดการดำเนินการของแต่ละกระทรวงที่ได้รับมอบหมายไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พูดถึงปัญหาอื่น เรื่องที่ผ่านมาก็ทำต่อเนื่องเพื่อช่วยให้คนจนได้มีที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน โดยจะต้องให้ดำเนินการกันโดยรวดเร็ว