"สิระ" สวน "นายพลส้มหวาน" ขลาดเขลาทางความคิด จงใจบิดเบือนกฎหมาย อ้าง "วิ่งไล่ลุง" ไม่ต้องทำตามกฎหมายชุมนุมสาธารณะ ย้ำต้องขออนุญาตทั้ง "วิ่งไล่ลุง-เดินเชียร์ลุง" เหตุเป็นกีฬาการเมือง ยันตำรวจไม่มีแทรกแซง ขอให้เลิกเป็นศรีธนญชัย เคลื่อนไหวได้แต่ต้องรับผิดชอบด้วย
วันนี้ (7 ม.ค. 63) นายสิระ เจนจาคะ รองประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีที่มีการออกมาโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเตะถ่วงไม่ให้มีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในหลายสถานที่ว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการฯ วันนี้ได้รับคำชี้แจงจากทางตำรวจว่า ไม่มีการแทรกแซงการจัดกิจกรรมแต่อย่างใด โดยทุกอย่างทำตามกฎหมาย ซึ่งผู้จัดงานต้องเข้าใจและเคารพกฎหมายด้วย อย่าเอาความรู้สึกตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งในขณะนี้มีความพยายามบิดเบือนข้อกฎหมายว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุง ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ โดยอ้างมาตรา 3 (3) ที่ระบุว่า การชุมนุมเพื่อจัดแสดงมหรสพ กีฬา ส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมอื่นเพื่อประโยชน์ทางการค้าปกติของผู้จัดการชุมนุมนั้น มาเป็นข้ออ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ โดยรายล่าสุดที่อ้างเรื่องนี้คือ พล.ท.พงศกร รอดชมภู สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ชวนให้คิดว่าขลาดเขลาทางความรู้หรือจงใจบิดเบือนกฎหมาย
"ผมคิดว่าอย่าพยายามทำตัวเป็นศรีธนญชัยจะดีกว่า เพราะกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นการนำกีฬามาอ้างเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง มีเป้าประสงค์ชัดเจนในการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในคำแถลงของแกนนำจัดกิจกรรมด้วย จึงไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นการชุมนุมเพื่อกีฬาตามมาตรา 3 ดังนั้นผู้จัดกิจกรรมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย" นายสิระ กล่าว
รองประธานกรรมาธิการการกฎหมาย ระบุด้วยว่า แม้แต่กิจกรรมเดินเชียร์ลุง ที่จะจัดในวันที่ 12 มกราคมเช่นเดียวกับวิ่งไล่ลุง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน นี่เป็นหลักการที่จะทำให้สังคมเดินต่อได้คือการเคารพกฎหมาย อย่าบิดเบือนกฎหมายตามความพอใจของตัวเอง และผู้จัดกิจกรรมต้องมีความรับผิดชอบต่อการเคลื่อนไหวของตัวเองด้วย โดยต้องพึงระลึกเสมอว่าเสรีภาพต้องคู่ขนานไปกับความรับผิดชอบด้วย