วานนี้ (6 ม.ค.) น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึง กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ออกหมายเรียก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายไพรัฐโชติก์ จันทรขจร สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ให้เข้ารับทราบข้อหา ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะว่า ทั้ง 2 คนจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในวันที่ 10ม.ค.นี้ โดยการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ เป็นการไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายเท่านั้น
"เรายังคงยืนยันว่า สิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนทุกคน ที่ได้รับการคุ้มครองตามรธน. 60 อย่างไรก็ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่า เสรีภาพการแสดงออกของประชาชนกำลังถูกคุกคาม โดยเฉพาะจากกรณีการจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมกระจายไปในหลายสิบจังหวัดทั่วประเทศไทย ที่ผ่านมาผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ในกรุงเทพฯ ถูกคุกคาม ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก ทั้งที่เป็นกิจกรรมในรูปแบบที่ สงบ สันติ เป็นการแสดงออกที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ต่อมาได้มีการร้องเรียนการถูกคุกคาม เข้ามาที่กมธ.กฎหมายและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ทำให้มีการเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบถาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จะจัดขึ้น เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย"
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ในหลายจังหวัด กลับมีการคุกคามผู้จัดกิจกรรม ถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.พะเยา ที่มีการเรียกผู้จัดกิจกรรมไปพบ และไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรม โดยบอกว่าผู้จัดไม่ได้ขออนุญาตสถานที่ รวมทั้งที่ จ.บุรีรัมย์ด้วย
"ในฐานะผู้แทนราษฎร ขอยืนยันว่า พื้นที่สาธารณะทุกแห่งในประเทศไทยเป็นพื้นที่ของประชาชนคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศ และตราบใดที่กิจกรรมที่ทำไม่ได้ขัดต่อกฎหมายและขื่อแปของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมไม่มีสิทธิไปคุกคาม และยังต้องอำนวยให้กิจกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างสะดวกเรียบร้อยและปลอดภัย" โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว
"เรายังคงยืนยันว่า สิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนทุกคน ที่ได้รับการคุ้มครองตามรธน. 60 อย่างไรก็ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่า เสรีภาพการแสดงออกของประชาชนกำลังถูกคุกคาม โดยเฉพาะจากกรณีการจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมกระจายไปในหลายสิบจังหวัดทั่วประเทศไทย ที่ผ่านมาผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ในกรุงเทพฯ ถูกคุกคาม ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก ทั้งที่เป็นกิจกรรมในรูปแบบที่ สงบ สันติ เป็นการแสดงออกที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ต่อมาได้มีการร้องเรียนการถูกคุกคาม เข้ามาที่กมธ.กฎหมายและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ทำให้มีการเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบถาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จะจัดขึ้น เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย"
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ในหลายจังหวัด กลับมีการคุกคามผู้จัดกิจกรรม ถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.พะเยา ที่มีการเรียกผู้จัดกิจกรรมไปพบ และไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรม โดยบอกว่าผู้จัดไม่ได้ขออนุญาตสถานที่ รวมทั้งที่ จ.บุรีรัมย์ด้วย
"ในฐานะผู้แทนราษฎร ขอยืนยันว่า พื้นที่สาธารณะทุกแห่งในประเทศไทยเป็นพื้นที่ของประชาชนคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศ และตราบใดที่กิจกรรมที่ทำไม่ได้ขัดต่อกฎหมายและขื่อแปของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมไม่มีสิทธิไปคุกคาม และยังต้องอำนวยให้กิจกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างสะดวกเรียบร้อยและปลอดภัย" โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว