รมว.พลังงานเผยสถานการณ์สหรัฐฯ-อิหร่านยังไม่ส่งผลกระทบราคาน้ำมันมากนัก ยังใช้กลไกปกติรับมือได้ พร้อมเตรียมมาตการรองรับ ทั้งเงินกองทุนน้ำมัน 4 หมื่นล้าน สต๊อกน้ำมัน ลดการขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุชไปใช้เส้นทางอื่น และเตรียมผลิตน้ำมันในประเทศให้มากขึ้น ขออย่าตื่นตระหนก
วันนี้(7 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงมาตรการด้านพลังงาน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ทางกระทรวงพลังงานได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน โดยสถานการณ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในเชิงราคาน้ำมัน ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องดำเนินการใดๆ เพราะภายใต้กลไกปกติยังบริหารจัดการได้ แต่ได้มีการเตรียมการที่จะใช้มาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่เกือบ 4 หมื่นล้านบาท การสต๊อกน้ำมัน ที่ปัจจุบันสามารถใช้ได้ 50 วัน และแก๊สยังมีเพียงพอต่อการใช้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสต๊อกน้ำมันนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ได้ติดตามเรื่องการขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปที่อยู่ระหว่างการขนส่งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพราะเรื่องนี้กระทรวงพลังงานได้เตรียมการมาล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากทราบถึงความเปราะบางของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จึงได้ลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากตะวันออกกลางที่ต้องผ่านช่องแคบฮอร์มุซ จาก 74% เหลือ 50% และเปลี่ยนไปสู่พื้นที่อื่นที่ไม่มีปัญหา รวมทั้งได้มีการเตรียมการผลิตน้ำมันดิบในประเทศให้มาก และผลิตน้ำมันสำรองขึ้นมาใช้หากว่ามีปัญหา ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่าเรามีมาตรการรองรับ ไม่มีผลกระทบอะไรรุนแรง อาจมีกระทบต่อตลาดหุ้นบ้าง กระทบต่อค่าขนส่งบ้าง และราคาน้ำมันขยับขึ้นไปบ้าง ทั้งนี้ จะมีการเชิญประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 10 ม.ค.