“หมวดเจี๊ยบ” เปิดฉากด่า “บิ๊กตู่” รับศักราชใหม่ ซัดสมองกลวง เปลี่ยนชื่อเรียก “7 วันอันตราย” เป็น “7 วันแห่งความสุข” แนะควรรณรงค์ลดดื่มของมึนเมามากกว่า แต่คงทำไม่ได้เพราะ บ.ผลิตสุราสนับสนุนรัฐบาล ซ้ำพูดจาเหยียดคนขี่ จยย.ชอบจอดบังหน้ารถเก๋ง สอนเป็นฉากๆ นายกฯ ต้องละเอียดอ่อน ระมัดระวังเรื่องคำพูด ถ้าทำไม่เป็นให้ลาออก เปิดทางคนอื่นมาเป็นแทน
วันนี้ (2 ม.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้จะขึ้นปีใหม่แล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกลับ ยังพูดและคิดแบบไม่เข้าท่าเหมือนเดิม โดยเฉพาะการเสนอไอเดียเปลี่ยนชื่อเรียก 7 วันอันตราย เพื่อลดอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ถูกจุด แต่ต้องแก้ด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกการเคารพกฎจราจรของประชาชน และรณรงค์ให้ลดการบริโภคสิ่งมึนเมาต่างๆ โดยต้องปลูกฝังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก รวมทั้งต้องออกแบบและบำรุงรักษาถนนหนทางให้ปลอดภัยสำหรับการขับขี่ เป็นต้น แต่เชื่อว่า รัฐบาลประยุทธ์คงทำไม่สำเร็จหรอก ตราบใดที่ผู้ผลิตสุราหรือเจ้าของอบายมุขรายใหญ่ ๆ ของประเทศยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลอยู่อย่างนี้เพราะถ้ายอดขายตก นายทุนเหล่านี้จะเอาเงินที่ไหนมาให้รัฐบาล
ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ตำหนิและพูดเหยียดคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ชอบไปจอดรอไฟแดงบังหน้ารถเก๋งนั้น แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เห็นใจหัวอกคนทำมาหากินที่เขาต้องรีบเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางเช่นกัน แต่ประชาชนตาดำๆ เขาไม่ได้มีรถนำขบวนเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ เขาจึงต้องทำอย่างนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์อยากบอกให้เขาเคารพกฎจราจร พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องสื่อสารอีกแบบหนึ่ง โดยควรเลือกใช้คำพูดอื่น เพราะพูดแบบนี้ ฟังแล้ว อาจเข้าใจว่าคนจนไม่มีสิทธิจะรีบไปไหนบ้างหรือยังไง ทั้งนี้ คนเป็นนายกฯ ควรต้องระมัดระวังการใช้คำพูดให้มากกว่านี้ เพราะการใช้ภาษาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสามารถนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมได้ ด้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะพูดอะไรก็ควรระวังปากมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะท่านกำลังสวมหัวโขนนายกฯ ซึ่งการที่ท่านพูดแบบนี้ มันสะท้อนความกลวงและความไม่ระวังปากข้ามปีข้ามชาติของนายกฯ แต่หากมันยากเกินไปสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะพัฒนาตัวเอง ท่านก็ควรถอดหัวโขน แล้วลาออกไป คนอื่นจะได้ถือโอกาสเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำเพราะความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ไปในคราวเดียวกันซะเลย