หน.พลังธรรมใหม่ ระบุคำว่า “ของมันต้องมี” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยลืมนึกความจำเป็น เทคโนโลยีซื้อขายสะดวกมีทั้งข้อดี-เสีย ยิ่งทั่วโลกประสบปัญหา ศก. แนะไตร่ตรอง “ต้องมี” หรือ “อยากจะมี”
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายแพทย์ ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ของมันต้องมี” เป็นคำพูดที่ผมได้ยินบ่อยมากในวันนี้ โดยได้ยิน พูดกันทุกครั้งที่ทีมงาน ถาม เพื่อนๆ กันว่า “ซื้อดีมั้ย?” จนผมอดสงสัยไม่ได้เลยถามว่ามันคืออะไร จนได้คำตอบว่า ด้วยวันนี้เป็นวันที่ 12/12 เป็นวันที่ร้านค้าทั้ง Offline, Online หรือแอปฯ ชอปปิ้งออนไลน์ทั้งหลาย มีโปรโมชันลดแลกแจกแถมกันเต็มไปหมด มีทั้งโปรโมชันแบบ กำหนดระยะเวลา และ จำกัดจำนวนชิ้น ที่เป็นตัวกำหนดให้ต้องรีบซื้อกันไม่งั้นอด ยิ่งมาประกบกับคำว่า “ของมันต้องมี” ด้วยแล้ว คำว่า “ของมันต้องมี” นี้ ผมคิดว่ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคพอสมควรเลยครับ หลายคนมักตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ มาไว้ก่อนเพียงแค่คำว่า “ของมันต้องมี” โดยลืมนึกถึงความจำเป็นของสิ่งนั้นมีความจำเป็นที่จะ “ต้องมี” จริงๆ หรือว่า “อยากจะมี”
ปัจจุบันวิถีชีวิตและสิ่งเร้าต่างๆ รอบตัวเราเริ่มปรับเปลี่ยนไป ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทำให้เป็นตัวช่วยที่เสริมการใช้จ่ายได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นจากเดิม เพราะมีพวกแอปฯ หรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ต่างๆ เพิ่มขึ้น มันเป็นยุคที่อะไรๆ ก็เร็วไปหมด กดไม่กี่ทีก็สามารถซื้อขายสินค้ากันได้แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง อยู่ที่เรานั้นจะเอามันมาใช้ประโยชน์ กันอย่างไร
ยิ่งตอนนี้เป็นยุคที่ทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ คนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ถ้าเรายังใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งของที่สร้างความสุขแค่ในระยะสั้นๆ หรือใช้จ่ายไปกับค่านิยมในการใช้จ่ายไปกับสิ่งของที่ “อยากจะมี” โดยไม่มีนึกถึงความจำเป็น จะทำให้เราพลาด “ของที่ต้องมี” หรือของที่ “ควรที่จะมี” ไป
สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากว่า การที่เราจะเลือกซื้ออะไรสักอย่าง ผมอยากให้นึกถึงความจะเป็นในของสิ่งนั้น ควรคิดอย่างไตร่ตรองแล้ว ว่าสิ่งๆ นั้น “ต้องมี” หรือ “อยากจะมี” นะครับ