“อนุพงษ์” แนะประชาชนเทศกาลปีใหม่ งดสุรา มุ่งหาศาสนา สวดมนต์ข้ามปี ทำบุญทำให้ชีวิตเป็นมงคล
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความปลอดภัยประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า กระทรวงมหาดไทยได้เริ่มต้นรณรงค์ดูแลประชาชนมาตั้งแต่เดือน พ.ย. ส่วนแผนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (17 ธ.ค.) เป็นช่วงปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2562 - 2 ม.ค. 2563 โดยมีรายละเอียดในเรื่องของพื้นที่ที่จะบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกส่วนดำเนินการ และแบ่งพื้นที่อำเภอเป็นสีต่างๆ ตามสถิติที่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญระดับหมู่บ้านที่มักพบความสูญเสียโดยเฉพาะถนนสายรองด้วยการบูรณาการเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และยังคงต้องยังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์สำหรับเรื่องยานพาหนะได้เน้นย้ำขอให้มีการงดใช้รถบรรทุกในช่วง 7 วันดังกล่าว ขณะที่รถสาธารณะต้องมีการควบคุมและกวดขันด้วยเช่นกัน ด้านรถทั่วไปขอร้องให้ประชาชนตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนเดินทาง
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะที่การดูแลเรื่องการสัญจรทางน้ำตนเน้นย้ำให้ดูแลเรื่องโป๊ะและคนขับเรือโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ รวมถึงการดูแลนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการกำหนดขอให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราก็มีการรนรงค์ไม่ให้ประชาชนดื่มสุรา โดยขอให้ไปทำกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี หรือใช้เวลาทำบุญกับครอบครัวแทน ไม่จำเป็นต้องดื่มสุรา ควรทำเรื่องวัฒนธรรมและศาสนาให้ชีวิตเป็นมงคล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่มีนโยบายให้มีการดื่มสุราในการจัดกิจกรรมปีใหม่ เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญของการสูญเสีย ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามแยกแยะสำนวนคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุราและขับรถเร็ว เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจนทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายให้แตกต่างจากคดีอุบัติเหตุอื่นๆ
เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนถึงการจัดกิจกรรมของทางจังหวัดว่ามีโฆษณาแอลกอฮอล์แอบแฝงจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ตามที่มีข่าวคือที่ จ.นครปฐม ทราบว่าทางภาคเอกชนและหอการค้าฯ ร่วมกันจัดงานรณรงค์เรื่องจังหวัดที่มีศักยภาพทางอาหาร โดยชี้แจงเรื่องโต๊ะจีนที่มีจำนวนมากและมีสตรีทฟูดที่ดี การจัดงานครั้งนี้ก็มีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมที่ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ ไปแทน ถือเป็นเทศกาลที่มีวัตถุประสงค์ที่ดี โดยตรวจสอบแล้วทางจังหวัดยืนยันว่าในการแถลงข่าวไม่มีการรณรงค์เรื่องการดื่มสุราแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่ไม่ส่งเสริมให้ดื่มสุรา และทางพื้นที่ยืนยันว่าเป็นเรื่องของน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนที่จังหวัดพังงาเป็นโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วโดย รมว.ท่องเที่ยวฯ มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาไปร่วมกิจกรรมแทนซึ่งเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่ก็จัดกิจกรรมลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว ตนก็ทราบว่ามีเรื่องของดนตรีและการดื่มสุรา แต่ไม่ใช่การจัดลานเบียร์ แต่ว่ามีร้านขายโดยขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต