ชาวมวกเหล็ก-มิตรภาพ จ.สระบุรี ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนใบอนุญาตโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทีพีไอ ชี้ทำรายงาน EHIA ไม่ครอบคลุม ส่อไม่ชอบด้วยกฎหมาย หวั่นกระทบชีวิตประชาชน
วันนี้ (16 ธ.ค.) นายพฤฒิ เกิดชูชื่น ประธานชมรมอนุรักษ์ลำน้ำมวกเหล็ก กรรมการอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย พร้อมชาวบ้านตำบลมิตรภาพ และตำบลมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 200 คน เข้ายื่นฟ้องศาลปกครองขอเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าถ่านหิน 150 เมกะวัตต์ ของบริษัท ทีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
นายพฤฒิกล่าวว่า ที่ชาวบ้านต้องรวมตัวกันใช้สิทธิฟ้องคดีเพื่อปกป้องมวกเหล็กให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยั่งยืน เป็นแหล่งน้ำนมดิบที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อการใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนคุ้มครองระบบนิเวศ และวิถีชีวิตชุมชน โดยการฟ้องครั้งนี้จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอเพิกถอนใบอนุญาตผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้า (ร.ง.4) และใบอนุญาตก่อสร้างอาคารควบคุม (อ.1) ที่ออกให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าขนาด 150 เมกะวัตต์ ของบริษัท ทีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นโครงการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติคุณภาพสิ่งแวดล้อมสุขภาพอนามัยคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง จึงต้องมีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมประเภทกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า EHIA โดยรายงาน EHIA ของโรงไฟฟ้านี้ไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบของโครงการที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนอย่างแท้จริง ขาดการศึกษาถึงกลุ่มอาชีพของประชาชนที่สำคัญซึ่งอาจจะเป็นผลทำให้เกิดการล่มสลายของชุมชนและสูญเสียอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรโคนมอินทรีย์ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศและอาจเกิดการปนเปื้อนสารพิษในน้ำนมได้ ทั้งนี้ นอกจากความเสียหายในด้านวิถีชีวิตเศรษฐกิจที่รายงานไม่ได้พูดถึงแล้วในด้านสังคมก็มีการศึกษาผลกระทบต่อคนอย่างไม่ครอบคลุม โดยไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นรุนแรงเป็นพิเศษต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเช่นกลุ่มเด็กผู้พิการผู้สูงอายุกลุ่มผู้เปราะบางเป็นต้นรวมถึงประเด็นสำคัญคือการศึกษานี้ไม่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบอย่างครบถ้วนในกระบวนรการรับฟังความคิดเห็นโดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงตามที่ได้กล่าวมาแล้วกลับไม่ได้รับข้อมูลและไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมในกระบวนการจัดทำรายงาน EHIA ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญจึงถือได้ว่ารายงานฉบับนี้เป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่คณะกรรมการกำกับกิจการนำรายงาน EHIA ฉบับที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปประกอบการพิจารณาแม้จะมีการยื่นคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่แล้วจึงถือได้ว่าใบอนุญาตประกอบกิจการต่างๆจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยเช่นกัน
ทางงกลุ่มชาวบ้านจึงยื่นฟ้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา 1. เพิกถอนมติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ที่ให้ความเห็นชอบรายงาน EHIA โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 150 เมกะวัตต์ ของบริษัท ทีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) 2. เพิกถอนมติของคณะกรรมการ กกพ. ที่ให้ความเห็นชอบโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 150 เมกะวัตต์ของบริษัท ทีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และให้คณะกรรมการ กกพ. มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตผลิตกระแสไฟฟ้ารวมทั้งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าและใบอนุญาตก่อสร้างอาคารควบคุมด้วย 3. ให้คณะกรรมการ กกพ. กรมโรงงานอุตสาหกรรมและเทศบาลเมืองทับกวางปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยควบคุมกำกับดูแลการประกอบกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาด 150 เมกะวัตต์ ของ บริษัททีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตโดยเคร่งครัดและให้หยุดประกอบกิจการไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตครบถ้วน