“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับทูตเดนมาร์กเข้าอำลาตำแหน่ง พร้อมสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืนทุกมิติ ยินดีมูลค่าการค้าระหว่างกันขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณช่วยฟื้น FTA
วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล นายอุฟเฟอ โวล์ฟเฮชเชิล (H.E. Mr. Uffe Wolffhechel) เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสครบวาระการดำรงตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเดนมาร์กที่มีความใกล้ชิดมายาวนาน โดยเฉพาะในระดับราชวงศ์ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นและมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เดนมาร์กถือเป็นเพื่อนที่เก่าแก่ที่สุดของไทยในยุโรปเหนือ เมื่อปีที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันฉลองวาระครบรอบ 160 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเดนมาร์ก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศมาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง และมั่นใจว่าเมื่อเอกอัครราชทูตฯ เดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเดนมาร์กจะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันสานต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มีความต่อเนื่องต่อไป
ด้านเอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือตลอดเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศ ได้เรียนรู้จากการทำงานในประเทศไทย และพร้อมสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทยที่อยู่ในระดับดีแล้ว ให้ดีขึ้นไปในทุกระดับ
ทั้งสองยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างกันขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรีขอบคุณเดนมาร์กที่มีส่วนสนับสนุนการรื้อฟื้นการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งเอกอัครราชทูตฯเชื่อว่า FTA ไทย-สหภาพยุโรปมีส่วนเพิ่มโอกาสสำคัญทางการค้าให้ไทยและเดนมาร์ก นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่นักธุรกิจเดนมาร์กมาร่วมลงทุนและสร้างงานในประเทศไทย และขอให้เดนมาร์กดูแลนักลงทุนไทยในเดนมาร์กด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนคณะนักธุรกิจเดนมาร์กลงทุนเพิ่มเติมในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ในสาขาที่เดนมาร์กมีศักยภาพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือในสาขาต่างๆกับฝ่ายไทย
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ที่เป็นประเด็นท้าทายในโลก ทั้งการพัฒนาที่ยั่งยืน ขยะ และสังคมผู้สูงอายุ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้เดนมาร์กมีส่วนร่วมในศูนย์อาเซียน ได้แก่ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษา และการพัฒนาที่ยั่งยืน และศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและนวัตกรรม ซึ่งเอกอัครราชทูตพร้อมจะหยิบยกขึ้นหารือกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยคนต่อไป ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้เอกอัครราชทูตฯ และครอบครัว มีความสุขในโอกาสวันคริสต์มาสและวันปีใหม่ที่จะมาถึง