ประธานที่ปรึกษา ชทพ.ยอมรับรัฐบาลประยุทธ์เสียงปริ่มน้ำอยู่ลำบาก แนะ 2 ทางเลือกแก้ปัญหาเสถียรภาพ ทำความเข้าใจให้มีเอกภาพ-หาเสียงเพิ่มตามกรอบรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงแนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรีว่าเป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่ต้องยอมรับกันว่ารัฐบาลชุดนี้จัดตั้งขึ้นด้วยความลำบาก เพราะว่าเวลานั้นการเมืองเราค่อนข้างตึง มีการแบ่งค่ายชัดเจน ดังนั้น ก่อให้เกิดความยากลำบากในการตั้งรัฐบาลให้เกิดเสถียรภาพ และเป็นที่มาของรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ
“การเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เกิดผลกระทบหลายอย่าง ทั้งๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ผมคิดว่าเมื่อดูจากนโยบายต่างๆ ก็เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลก แต่การขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จนั้น เสถียรภาพรัฐบาลก็เป็นพื้นฐานสำคัญ หลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในสภา เวลาเสียงครบหรือไม่ครบ หรือรัฐบาลแพ้ในการลงมติ มันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น การโหวตในสภาเป็นเรื่องมีความสำคัญ” นายสุวัจน์กล่าว
นายสุวัจน์กล่าวว่า ดังนั้น รัฐบาลมีสองทางเลือก 1. ถ้าปัจจุบันมีเสียง 253-254 เสียงก็ต้องมีการทำความเข้าใจกันเพื่อให้เกิดเอกภาพ และการมีความรู้สึกเป็นพรรครัฐบาลร่วมกัน ถ้าควบคุมตรงนี้ได้ก็ไม่มีปัญหา 2. หากโหวตมาแล้วเสียงไม่ครบเรื่อยๆ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องหาเสียงมาเพิ่มจะด้วยวิธีการอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นแนวทางหนึ่งที่จะเพิ่มเสียงให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและเพิ่มความเชื่อมั่นในการทำงาน
“การจะปรับ ครม.หรือไม่ เป็นเรื่องของนายกฯ แต่พรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีอะไรที่บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ แต่คิดว่าถ้ามีเสียงมาเพิ่มให้กับเสถียรภาพก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน” นายสุวัจน์กล่าว