xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เปิดเทอมินอล 2 สนามบินอู่ตะเภา-พัทยา หนุนอีอีซี ตั้งเป้าเป็นฮับเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"บิ๊กตู่" เดินสายเปิดเทอมินอล 2 สนามบินอู่ตะเภา-พัทยา รับผู้โดยสาร 3-5 ล.คนต่อปี คาดเพิ่มหลังปี 70 หนุนอีอีซี ตั้งเป้าฮับเอเชีย เซ็งคนเข้าใจแกล้งไม่เข้าใจ เปรียบเชื่อมโยงคมนาคม เหมือนเส้นเลือด เลือดฝอยมัวทะเลาะกัน ทำชาติเดินยาก

วันนี้ (4ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00น.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา จ.ระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา โดยมีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดด้วย

ทันทีที่ลงเครื่อง พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และพลเรือโทกฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการท่าอากศยานอู่ตะเภา ให้การต้อนรับ พร้อมนำตรวจแถวทหารกองเกียรติยศจากกองทัพเรือที่มาให้ก่รต้อนรับ

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวรายงานว่า ท่าอากาสยานนานาชาติอู่ตะเภา เปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ มาตั้งแต่ปี 2532 รวมระยะเวลา 30 ปี ปัจจุบันมีผู้โดยสามารถใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี มีจำนวนเที่ยวบินปประมาณ 15,000 เที่ยวบินต่อปี เป็นเหตุให้อาคารพักผู้โดยสาร เกิดความแออัด ไม่เพียงพอต่อการให้บริการดังนั้นการท่าอากาศยานอู่ตะเภา จึงได้ก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารแห่งที่ 2 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสาร และสายการบินพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศ และเชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ตะวันออก พร้อมสนับสนุนยกระดับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ให้เป็นเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค ตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 3-5 ล้านคนต่อปี และสามารถให้บริการได้เต็มศักยภาพถึงปี 2570 ที่ประมาณการณ์ผู้โดยสารไว้ว่า จะมีมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี

อย่างไรก็ตาม การท่าอากาศยานอู่ตะเภา-พัทยาได้ทดสอบการใช้งานระบบบริการต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานสากล และทดลองเปิดใช้งาน อย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2562 ผลการดำเนินการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งอนาคต จะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสาร เชื่อมโยงและสนับสนุนการเดินทาง เพื่อให้พร้อมเป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยจะมีการกาอสร้างอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 3 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มาถึง 1,200 คนต่อชั่วโมง และมีความพร้อมให้บริการทุกด้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริม อีอีซี เชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมือง และ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้

นายกรัฐมนตรั กล่าวว่า วันนี้ช่วงเช้าได้ไปเปิดสถานีรถไฟ ตอนบ่ายมาเปิดสนามบิน นี้คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นการสร้างโอกาส สร้างความเชื่อมโยง ด้านขนส่งมวลชน นี้คืออนาคตของประเทศ ทุกคนต้องเข้าใจคำว่าอะไรคืออดีต อะไรคือปัจจุบัน อะไรคืออนาคต อะไรคือปัญหา อะไรคือวิกฤต และอะไรคือโอกาส คำเหล่านี้คนไทยต้องสนใจ ไม่เช่นนั้นจะไปอะไรไม่ได้สักอัน จะติดปัญหาเดิมๆ ทำให้เดินหน้าประเทศไม่ได้ แล้วจะตอบคำถาามอนาคตได้อย่างไร คนรุ่นใหม่ ลูกหลานจะอยู่จะกินอย่างไร ทั้งหมดต้องแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน เรื่องของคมนาคม เป็นการทำให้เกิดความเท่าเทียมทางด้านโอกาส ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และมีมูลค่าเพิ่ม

นายกฯกล่าวด้วยว่า ภาคเอกชน ภาคประชาชน ถ้าร่วมมือกัน สิ่งที่เป็นปัญหทั้งหมด จะลดลง และจะทำให้แก้ปัญหาระยะยาวได้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน สนาบินอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ได้วางแผนในปี 2570 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสาร ได้มากขึ้น

“วันนี้เป็นนายกฯปัญหามาทุกเรื่อง แต่ไม่เคยทอดทิ้งสักเรื่อง การดำเนินดครงการต่างๆ จะต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ ว่าประเทศชาติได้อะไร ประชาชนได้อะไร และนำรายได้มาพัฒนาประเทศอย่างไร ที่ผ่านมาตนคิดแบบนี้ตลอด และต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ”นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวอีกว่า รายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ และช่วงนี้เป็นช่วงไฮส์ซีชั่น เหลืออีก 1 เดือนเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แล้วใครจะทำลายไฮส์ซีซั่นของเรา ใครจะทำลายความสุขปีใหม่ของเรา คุณไปว่าคนเหล่านั้น ต้องไม่ทำ ประเทศต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นายกฯกล่าวต่อว่า เหตุผลที่ต้อองทำ อีอีซีในพื้นที่นี้ เพราะพื้ที่นี้มีศักยภาพอยู่แล้ว เมื่อเพิ่มเติมก็จะทำให้ทุกอย่างเพิ่มมูลค่าสูงขึ้นมาได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมดั้งเดิม โชติช่วงชัชวาล มาวันนี้ก็ต้องเป็นอีอีซี เชื่อมโยงเศรษฐกิจตะวันตก ตะวัน- ออก และวันข้างหน้าต้องเชื่อมโยง เหนื่อ ใต้ ต้องทำทั้งหมด เหมือนเส้นเลือดหลักที่ต้องมีตะวันตก-ออก เหนนือ -ใต้ ทั้งรถไฟ ท่าเรือ เครื่องบิน อยู่ในแผนการพัฒนาทั้งสิ้น ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งต้อใช้เวลาถึง 20 ใครจะอยู่ยังไม่รู้เลย เราก็ไม่ใช่จะอายุยืนยาวเป็น 100 ปี ใครจะไปไหว ดังนั้นจะต้องทำในวันนี้ สืบสาน รักษาต่อยอด นี้คือแนวพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก้ปัญหาของเดิม เดินของใหม่ มองสู่อนาคต มองสู่อนาคต ทำให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นายกฯกล่าวอีกว่า ความมั่นคงจะต้องเกี่ยวพัน ในเรื่องความมีเสถียรภาพของรัฐบาล การรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสร้างสภาวะแวดล้อม ให้ปลอดภัยน่าลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นความไว้วางใจ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นในเวทีโลก และจากการประชุมอาเซียน และอีกหลายประชุม นี้คือความก้าวหน้าที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาสั้นๆ 5-6 ปี ที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าทุกอัน และเชื่อว่าวันข้างหน้า จะเกิดความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ และอาจจะต้องมีความระมัดระวัง การที่จะมีคนมาอยู่ในไทยมากขึ้น โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอาชีพของคนไทย อาจถูกแย่ง ตรงนี้ต้องระมัดระวัง มันมีทั้งวิกฤติและโอกาส

“ปัญหาของประเทศเรามีอย่างเดียว ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ บางคน เข้าใจก็ทำเป็นไม่เข้าใจ ซึ่งผมไม่รู้จะทำอย่างไร เหมือนกัน ผมอยากถามว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้ เมื่อ 4-5 ปี มันจะเกิดหรือไม่ ในหลายๆเรื่อง แต่ทุกอย่างคงไม่แล้วเสร็จภายในปีเดียว แต่มันก็มีแผนซึ่งจะต้องมีความอ่อนตัวในการปรับแก้ โดยไม่ทิ้งหลักการเดิม เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราต้องสร้างความเข้มแข็งในประเทศ ด้วยตนเอง และมิตรประเทศของเรา ที่มีความสัมพันธ์ที่ดี และต้องเดินการเมืองต่างประเทศในเชิงรุก เราอยู่ท่ามกลางอาเซียนเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง ดังนั้น ต้องใช้ศักยภาพให้ถูกต้อง และเกิดความสมดุลกับทุกภูมิภาค ไม่ใช่เหวี่ยงไป เหวี่ยงมา ข้างนั้น ข้างนี้ไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียโอกาสทันที และต้องเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง”นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวเปรียบเทียบว่า ความเชื่อมโยงด้านคมนาคม ซึ่งความเชื่อมโยงของเส้นเลือดในตัวคน ซึ่งมีเส้นเลือดหลัก เส้นเลือดดำ แดง และ เส้นเลือดฝอย วันนี้ทะเลาะกัน บนเส้นเลือดฝอย อยู่กันไม่เลิกเสียที แล้วมันก็ไปไม่ทั่วถึง ประเทศเราก็อ่อนแอ แขนซ้าย แขนขวา ขาซ้าย ขวา ก็อ่อน แล้วมันจะไปอย่างไร ลูกหลานจะอยู่อย่างไร เราจะสู้กันจนตายเหรอ ลูกหลานต้องโตต่อไปในอนาคต ไม่คิดวันนี้ จะคิดเมื่อไร ทุกคนต้องเสียสละในการทำงานร่วมกัน จริงๆอยากจะพูดต่อสักชั่วโมงหนึ่ง เพราะเรื่องในหัวมีเต็มไปหมด

หลังพิธีเปิดสนามบินอู่ตะเภา-พัธยา นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมอาคารที่พักผู้โดยสารประกอบไปด้วยห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ และ ห้องอุปกรณ์ในการตรวจสอบระบบติดตามผู้โดยสาร การตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ร้านค้าภายในท่าอากาศยานดังกล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น