นายกฯ เปิดเทอร์มินัล 2 สนามบินอู่ตะเภา รองรับผู้โดยสาร 3-5 ล้านคนต่อปี คาดหลังปี 2570 ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี ส่งเสริมอีอีซี ตั้งเป้าเป็นฮับภูมิภาคเอเชีย
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมในพิธีเปิด
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และพล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการท่าอากศยานอู่ตะเภา ให้การต้อนรับ
ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวรายงานว่า ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2532 รวมระยะเวลา 30 ปี ปัจจุบันมีผู้โดยสามารถใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี มีจำนวนเที่ยวบินปประมาณ 15,000 เที่ยวบินต่อปี เป็นเหตุให้อาคารพักผู้โดยสารเกิดความแออัด ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ดังนั้น การท่าอากาศยานอู่ตะเภาจึงได้ก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารแห่งที่ 2 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสาร และสายการบินพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศ และเชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ตะวันออก พร้อมสนับสนุนยกระดับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ให้เป็นเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค ตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 3-5 ล้านคนต่อปี และสามารถให้บริการได้เต็มศักยภาพถึงปี 2570 ที่ประมาณการรณ์ผู้โดยสารไว้ว่าจะมีมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม การท่าอากาศยานอู่ตะเภาได้ทดสอบการใช้งาานระบบบริการต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานสากล และทดลองเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 ผลการดำเนินการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
นายกฯ จะได้เยี่ยมชมอาคารที่พักผู้โดยสารประกอบไปด้วยห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ และ ห้องอุปกรณ์ในการตรวจสอบระบบติดตามผู้โดยสาร การตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ร้านค้าภายในท่าอากาศยาน
ในอนาคตจะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสาร เชื่อมโยงและสนับสนุนการเดินทาง เพื่อให้พร้อมเป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศไทย ซึ่งภายในอาคารผู้โดยสาร เฟส 3 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มาถึง 1,200 คนต่อชั่วโมง และมีความพร้อมให้บริการทุกด้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมอีอีซี เชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้