“พิเชษฐ” โพสต์ช็อกสาวก ปชป. เห็นหัวหน้า-เลขาฯเดินขนาบหัวหน้า รปห. แล้ว รู้สึกหมดสิ้นศักดิ์ศรีชาวสีฟ้า ขณะ “สุทิน” สวน “ยิ้มบางทำร้ายจิตใจคนอิจฉาริษยาได้” ขนาบข้างนายกฯมันเสียศักดิ์ศรีตรงไหน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เฟซบุ๊ก พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเมื่อวานนี้(29 พ.ย.62)
เห็นภาพหัวหน้าพรรคและเลขาพรรคปชป.ไปเดินขนาบซ้ายขวาเป็นสมุนหัวหน้าคณะ รปห. อย่างออกหน้าออกตาแล้ว รู้สึกหมดสิ้นแล้วซึ่งศักดิ์ศรีชาวสีฟ้าจริงๆ
ต่อมาวันนี้(30 พ.ย. 62) เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn ของ นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ตอบโต้ หัวข้อ “ยิ้มบางทำร้ายจิตใจคนอิจฉาริษยาได้”
โดยระบุว่า รองนายกฯกับรัฐมนตรียืนขนาบข้างนายกฯมันเสียศักดิ์ศรีตรงไหน อะไรคือศักดิ์ศรีอะไรคือเกียรติภูมิ อะไรคืออุดมการณ์สัตว์โลกที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยน แปลง วิวัฒนาการของโลกสูญพันธุ์ไปมากต่อมากแล้ว
คนจับมือกัน คนยืนขนาบข้าง ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนอุดมการณ์เสมอไป บางทีอาจเป็นเรื่องฉลาดที่การแสดงออกง่ายๆทำให้พวกองุ่นเปลี้ยวรากเลือดตาย
ก่อนหน้านี้(26 พ.ย.62) เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn เช่นกัน ก็เคยโพสต์ ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ว่า พรรค (ปชป.)ต้องหาคำตอบว่า "ทำไมคนอยู่ไม่ได้" ด้วยหัวข้อ “ต้องหาคำตอบด้วย ว่าทำไม ปชป ยืนหยัดอยู่ได้”
เนื้อหาระบุว่า เห็นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โพสต์ว่าพรรค (ปชป.)ต้องหาคำตอบว่า "ทำไมคนอยู่ไม่ได้" ในฐานะสื่อที่ติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดเวลาห้าสิบปี อยากให้นายพีระพันธ์ หาตอบคำด้วยว่าทำไม ปชป. ยังยืนหยัดอยู่ได้
สี่สิบกว่าปีที่ทำข่าวการเมือง ได้เห็นนักการเมืองดาวรุ่ง ส.ส.คนดังลาออกจากพรรคในขณะที่ ปชป. เพลี่ยงพล้ำแพ้เลือกตั้งมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนักเลงเก้ายอด ไอ้หมูหิน ไอ้ลิงดำ ไข่มุกอันดามัน หมักปากชักยนต์ พ่อไอ้ปืด รมต. ป่าลั่น กำนัน และแกนนำ กปปส. และล่าสุดหมอมือปราบโกงข้าว
ทุกคนที่เดินออกไปจาก ปชป. ต่างก็หวังว่าอนาคตในพรรคใหม่ หรือ ตั้งพรรคที่ตั้งเตรียมไว้สดใสกว่า ที่ร้ายกว่านั้นหลายคนมีความรู้สึกว่า ปชป. กำลังล่มสลายอยู่ไปถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
แต่ความเป็นจริงทางการเมืองไม่เป็นดังที่ผู้สละเรือเข้าใจหรือทำนายไว้ ปชป. มีขึ้นมีลง แต่ถ้ามองด้วยสภาพความเป็นจริงจะพบว่ามีขึ้นและเติบใหญ่อย่างมีเสถียรภาพมั่นคงมากขึ้นกว่าเสื่อมทรามหรือล่มสลาย
ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ตั้งแต่หลัง 16 ต.ค.2516 การเลือกตั้ง 2517 ปชป. ได้ ส.ส 79 คนจากจำนวน ส.ส 320คนทั้งสภา เลือกตั้ง 2518 ปชป. มาอันดับหนึ่งอีกได้ ส.ส 110 คน
แต่หลังจากปฏิวัติยึดอำนาจปี 2519 ที่มีส.ส คนดังบางคนของ ปชป. ไปสมคบกับผู้วางแผนปฏิรูปประเทศซึ่งเป็นเหตุให้ฆ่านักศึกษากลางเมืองจำนวนมาก การบริหารประเทศตกอยู่อำนาจเผด็จการที่อดีต ส.ส ปชป. เข้าไปร่วมเสวยอำนาจเผด็จการด้วย
ต่อมามีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ ปชป. ตกต่ำได้ส.ส. เพียง 35 คน เท่ากับ อดีต ส.ส. ปชป. ที่ร่วมกับเผด็จการและตั้งพรรคการเมืองของตัวเองขึ้นมา
แต่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยครึ่งใบในปี 2523 ปชป. ก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมาได้ ส.ส. เพิ่มเป็น 45 คน ปชป. อยู่ร่วมฟื้นฟูประเทศต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำรัฐบาลป๋าเปรม อย่างเหนียวแน่นเป็นเวลากว่า 8 ปี จนได้รับความนิยมศรัทธาจากประชาชนมากขึ้น
ในการเลือกตั้งหลังจากป๋าเปรมวางมือ ปชป. จึงได้ ส.ส. เพิ่มขึ้นเป็น 123 คน และหลังจากประกาศรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มี ส.ส. เขต กับ ส.ส. บัญชีรายชื่อรวมกันเป็น 500 คน ปชป. ก็ได้ ส.ส. 150 คน 160 ตลอดมา ล่าสุดในการเลือกตั้งแบบใหม่อดีต ส.ส. ปชป. แยกไปอยู่พรรคตั้งใหม่ 17 คน การเลือกตั้งเดือน มี.ค.2562 ปชป. ได้ส.ส. เพียง 54 ที่นั่ง
ปชป. ขึ้นๆลงๆ ตลอดเวลากว่า 71 ปี แต่ถ้าดูดีๆมีขึ้นอย่างมั่นคงมากว่า พรรคผีพุ่งใต้ที่วูบขึ้นแล้วดับไป
71 ปี ปชป. สู้กับพรรคเสรีมนังคศิลา สหประชาไทย กิจสังคม สังคมประชาธิปไตย ชาติไทย ประชากรไทย ความหวังใหม่ กิจสังคม ธรรมสังคม ไทยรักไทย พลังประชาชน ฯลฯ ทุกครั้งที่พรรคดาวผีพุ่งใต้หรือพรรคหัวหน้าตั้งหรือพรรคหัวหน้าเป็นเจ้าของชนะเลือกตั้งครั้งแรก แล้วล้มหายตายจากไปทีละพรรคสองพรรคหลังจากเลือกตั้งครั้งที่ 2 แต่ ปชป. ยังยืนหยัดอยู่ได้จนวันนี้
ในห้วงเวลา 71 ปี ปชป. ผลิตนักการเมืองรักชาติสัตย์ซื่อมือสะอาด ไม่มีประวัติหรือข้อครหาทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 4 คน และมั่นใจว่า ปชป. ต้องมั่นคงก้าวหน้าเป็นสถาบันการเมืองต่อไป จึงอยากให้ได้นายพีระพันธ์หาคำตอบด้วยว่า ทำไมพรรค ปชป. จึงยืนหยัดอยู่ได้
เป็นเพราะ ปชป. เป็นพรรคมหาชนที่มีอุดมการณ์มั่นคง ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ ที่สำคัญ ปชป. มีสมาชิกทุกคนเป็นเจ้าของ คนไหนมีความสามารถ มีอุดมการณ์หนักแน่นมั่นคงพร้อมจะเป็นหัวพรรคได้ทุกคนใช่หรือไม่?
ปล. ผู้เขียนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เชื่อมั่นในอุดมการณ์ของ ปชป.
เห็นได้ชัดว่า “สุทิน” มีความเข้าใจพรรคประชาธิปัตย์สูง ทั้งยังมี “ดีเอ็นเอ” ประชาธิปัตย์ข้น กว่าคนบางคนในพรรคประชาธิปัตย์เวลานี้เสียด้วยซ้ำ
สำหรับ สุทิน วรรณบวร ทราบกันในวงการว่า เป็นนักข่าวการเมืองอาวุโส สังกัดสำนักข่าวเอพี เจ้าของฉายา "นักข่าวสายโจร" มีชื่อเสียงจากการตั้งคำถามที่ดุดัน จนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแหล่งข่าวหลายคน เคยปะทะคารมกับนักการเมืองหลายคน เช่น สมัคร สุนทรเวช
สุทิน เป็นชาวจังหวัดตรัง เริ่มต้นการทำข่าวตั้งแต่ช่วงสงครามอินโดจีน เคยสังกัดสำนักข่าวยูพีไอ และสำนักข่าวรอยเตอร์ส นอกจากนี้ ยังเป็นนักแปลวรรณกรรมการเมือง มีผลงานแปลหนังสือมาแล้ว 26 เล่ม มีผลงานเขียนหนังสือ ชื่อ "เรื่องอยากเล่าของนักข่าวสายโจร"
สุทินลาออกจากตำแหน่งผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักข่าวเอพี เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 โดยให้เหตุผลว่า ต้องการเป็นแนวร่วมให้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นการชุมนุม เขาทำงานเป็นบรรณาธิการอาวุโสให้กับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมภาคภาษาอังกฤษ TAN Network ของเอเอสทีวี ที่มี นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นผู้อำนวยการช่อง....(ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
ด้าน พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ประกอบวิชาชีพทนาย และประกอบธุรกิจหลายด้านในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีบทบาทสำคัญในสภาหอการค้า ทำให้มีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจการค้า เข้าสู่วงการเมืองโดยลงสมัครส.ส.ครั้งแรกที่จังหวัดกระบี่ เมื่อปี พ.ศ. 2535 และชนะเลือกตั้งมาตลอดทุกครั้งที่ลงสมัคร
เคยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เคยดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร
นายพิเชษฐ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ครั้งที่ 2 และเป็นหนึ่งในแกนนำทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.57 หลังการประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จังหวัดกระบี่ นายพิเชษฐได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้ตัดสินใจประกาศยุติบทบาททางการเมือง เนื่องจากปัญหาสุขภาพ และต่อมาในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 72 ปี มีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่โรงแรมกระบี่เมอร์ริไทม์ นายพิเชษฐก็ได้ย้ำอีกครั้งว่า ยุติบทบาททางการเมืองทั้งหมด และจะผลักดันบุตรสาวของตน คือ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ให้สืบสานต่อ(ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
ดังนั้น โพสต์เฟซบุ๊ก ของมวยรุ่นใหญ่คู่นี้ จึงนับว่าน่าดูชม ทั้งยังออกหมัดแต่ละหมัดทำเอากองเชียร์ได้หวาดเสียวกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะหมัดหนักที่ว่าด้วยเรื่อง “ปชป.หมดศักดิ์ศรีแล้วหรือ???” ส่วนว่าหมดหรือไม่ อยู่ที่ใครเชียร์ข้างไหนเป็นสำคัญ!