"บิ๊กตู่"วอนนักธุรกิจช่วยคุมราคาสินค้า อย่ามุ่งรีดกำไรจากประชาชน ชี้นโยบายรัฐบาลมาจาก ครม. เชื่อประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์ใครคิดไม่ดีอยู่ไม่ได้
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 62 เวลา 19.00 น. ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ถนนวิทยุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีประกาศและมอบรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards และรางวัล SMEs Excellence Awards 2019 ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับการมอบรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards เป็นรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มอบให้แก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ โดยมีจำนวน 9 สาขารางวัล ได้แก่ สาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาการบริหารจัดการขององค์กร สาขาความเป็นเลิศด้านการบริหารทางการเงิน สาขาความเป็นเลิศด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล สาขาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ สาขาความเป็นเลิศด้านการตลาด สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ และสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน จากนั้นมีการมอบรางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awards 2019 ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศ โดยมี 3 ประเภท คือ ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิ ต ประเภทธุรกิจการบริการ และประเภทธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลาการทำงานของตน 5 ปี รวมกับ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ตนทำงานอย่างหนัก ในการปกครองประเทศ เพราะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าโลกจะต้องมีปัญหาแน่นอน จที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิตอลที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆซึ่งรวมถึงพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปเน้นความสะดวกสบาย ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามปรับทุกอย่าง โดยมีการแก้กฎหมายกฎระเบียบที่ไม่ได้รับการแก้ไขมากพอสมควร และต้องแก้ไขให้มากกว่านี้อีก พร้อมกันนี้ ยังชี้แจงถึงความจำเป็นต้องมีทหาร ว่า ทุกวันนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ใช่ 2 ขั้วอำนาจ แต่เป็นหลายขั้วอำนาจ ในปัจจุบันไม่มีสงครามเย็น แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจ ส่วนสงครามทหารมีความจำเป็นตามแนวชายแดน ต้องมีความพร้อมเรื่องความมั่นคง อยู่ตลอดแนวชายแดนมากกว่า 2 หมื่นคน ต้องใช้ชีวิตอยู่กลางดิน ป่า เขา จุดใดไม่มีรั้วน้องใช้ทหารอยูประจำฐาน รวมถึงใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ ร่วมในพื้นที่สามจังหวัดชายภาคใต้ นี่คือมิติความมั่นคงเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการรรักษาความปลอดภัยในประเทศ ส่วนที่มีคนออกมาร่อต้านไม่อยากให้มีทหาร ให้ไปเรียน ร.ด อย่ามาทะเลาะกันให้ปวดหัว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องเชื่อมั่นว่าประเทศไทยไปได้ ประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์ ใครไม่ดีจริงอยู่ไม่ได้ ตนเชื่ออย่างนั้น ยืนยันไม่อยากให้การทำงานที่ผ่านมาเสียเปล่า ให้ทุกคนช่วยกันคิด ใครที่มีความสามารถมาเป็นผู้นำได้ ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า ตนเก่งอยู่คนเดียว เวลาไปต่างประเทศเขาจะชื่นชมประเทศไทยทุกครั้ง เค้าไม่ได้พูดเพราะปากหวานแต่พูดเพราะความจริงใจ ตรงกันข้ามในประเทศเรา มีบางคนตื่นมาก็โฟสต์ด่า แต่ตนไม่สนใจ ไม่อ่านข้อความพวกนั้น ระยะหลังตนจึงอารมณ์เสียน้อยลง อย่างไรก็ตามขอฝากทุกคนพูดแต่สิ่งดี ๆ ทั้งเรื่องการเมือง หรืออะไรก็ตาม และขอให้ทุกคนให้เกียรติประชาชน เพราะประชาชนเลือกมา อย่าลืมว่าต้องดูแลสังคมไปด้วย อะไรเกิดขึ้นอะไรคือประเทศไทย จะมากล่าวหาว่าตนทำให้ประเทศแย่ลง อยากให้ทุกคนไปทบทวนขณะที่ตนเข้ามาประเทศแย่อย่างไร ในห้องนี้ใครจะรักหรือไม่รักตน แต่ขอให้ทุกคนรักประเทศและประชาชน และขอให้ภาคธุรกิจไปดูแลราคาสินค้าเพื่อช่วยประชาชน อย่ามุ่งแต่เอากำไรอย่างเดียว รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ 68 ล้านคน ชีวิตคนเป็นนายก ไม่ได้สบาย ตนเป็นนายกจะซื้อของอะไรก็ไม่ได้ ยืนยันเป็นนายกรัฐมนตรีทำเพื่อประเทศและคนไทยทุกคน แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วย ถ้าจะไม่มีใครรักหรือไม่ชอบตน ก็ขออภัยเช่นกัน พร้อมบอกคนในประเทศไทยสนใจแต่เรื่องการเมือง ตรงข้ามกับต่างประเทศที่ให้ความสนใจเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นต้องสร้างหลักคิดให้ประชาชนใหม่ จะอยู่แบบเดิม ๆ ไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ปัญหาทางการเมือง ทุกคนต้องรวมหัวกันคิดแบบที่ตนคิด ไม่ว่าจะพรรคไหนเมื่อมาอยู่ร่วมกันก็ต้องทำแบบที่ตนคิด แม้พรรคก็คือพรรค แต่รัฐบาลคือรัฐบาล และนโยบายรัฐบาลที่ทำอยู่ตอนนี้มาจากครม.เท่านั้น ครม.ที่ทุกพรรคต้องทำงานร่วมกัน และทยอยทำแต่ละรื่องออกมา ทำพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีเงินอยู่จำกัด
