สภาล่มรอบสอง หลังองค์ประชุมไม่ครบก่อนโหวตตั้ง กมธ.ยกเลิก ม.44 ด้านฝ่ายค้านวอล์กเอาต์เหมือนเดิม “เสรีพิศุทธ์” แจงปมปัญหาขัดแย้งใน กมธ.ปราบโกง แฉ “ดล” ถูกบีบให้ออกเหตุ พปชร.ไม่พอใจสอบบางคนทำพยายามอยู่เหนือ รธน. เปรยขอให้ยิงกันในสภาเหมือนศาล
วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธาน ภายหลังเปิดให้ ส.ส.หารือเรียบร้อยแล้ว โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าทำหน้าที่กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แทนที่นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา ที่ลาออกจากคณะกรรมาธิการ
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ. ลุกขึ้นอภิปรายว่า ขณะนี้รายชื่อที่เสนอมาแทนนายดลอยู่ระหว่างการพิจารณาของตน ตามข้อบังคับข้อที่ 109 เพราะหากส่งชื่อให้ประธานสภาฯ เลยโดยไม่กลั่นกรองก็จะถือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เลว สาเหตุความวุ่นวายของคณะกรรมาธิการ ที่มีต้นเหตุเพราะมีบางฝ่ายพยายามทำตัวเหนือรัฐธรรมนูญ ตนและคณะกรรมาธิการจึงมีเชิญนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี เพื่อมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 แต่กลับไม่ยอมมาชี้แจง จึงเป็นเหตุให้พลังประชารัฐเปลี่ยนแปลงกรรมาธิการถึง 2 คน และเกิดความวุ่นวายมาตลอดจนถึงเมื่อวานนี้ โดยตนเองในฐานะประธานกรรมาธิการมองว่าเป็นเรื่องภายใน และพยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองทั้งสิ้น และทราบข่าวว่านายดลโดนบีบให้ลาออก จึงฝากถึงบุคคลที่จะเข้ามาในกรรมาธิการว่า “เป็นแค่ลูกแมว ไม่รู้จักพ่อเสือ ใครจะเข้ามาอีกก็ลองดู”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังขอให้นายชวนทบทวนการวินิจฉัยกรณีลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 หลังจากฝ่ายค้านชนะการลงมติ แต่กลับวินิจฉัยให้นับและลงคะแนนใหม่โดยเปิดเผยเมื่อคืนนี้ พร้อมระบุว่า “ขอให้ยิงกันในศาลพอ อย่าให้มายิงกันในสภาเลย”
ด้านนายชวนกล่าวว่า ตามข้อ 109 หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่เสนอชื่อ กมธ.มา ผลที่เกิดขึ้นคือ คณะ กมธ.จะทำงานไม่ได้ กระบวนการคือท่านต้องเสนอมา สิทธิของ ส.ส.เหนือกว่า ขอได้โปรด ตนจำเป็นต้องรักษาสิทธิของสมาชิก
ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.กล่าวว่า ข้อมูลที่ประธาน กมธ.พูดเป็นข้อมูลด้านเดียว ส่วนคำพูดที่ว่าจะยิงกันในสภา ขอให้ถอน เพราะจะไม่มีการยิงกันในสภา จะยิงกันที่ไหนก็ได้ แต่อย่ายิงที่นี่ ทำให้นายชวนกล่าวติดตลกว่า “ยิงด้วยหนังสติ๊ก หรือยิงปืน ขอให้มือปืนทั้งหลายอย่ามายิงกันที่นี่แล้วกัน” และกล่าวว่า หาก กมธ.ชุดใดมีปัญหาตนจะเข้าไปช่วยประสานให้เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่มาทำลายการทำงาน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ทักท้วงการเปลี่ยนตัว กมธ.ข้ามพรรค ทำให้สัดส่วน กมธ.ของแต่ละพรรคที่เคยกำหนดต้องเปลี่ยนแปลงไป ถือว่าขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 91 หรือไม่ แต่นายอรรถกรยืนยันว่าการเปลี่ยนตัว กมธ.ข้ามพรรคไม่ขัดข้อ 91 และไม่ทำให้สัดส่วนของ กมธ.แต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่นายชวนก็ยืนยันเช่นกันว่า การเปลี่ยนตัว กมธ.เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่สามารถทำได้ และขอให้เรื่องนี้จบได้แล้ว
จากนั้นได้ตัดบทเข้าสู่วาระการลงคะแนนแต่งตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 โดยได้กดสัญญาณเรียกสมาชิกเพื่อทำการนับองค์ประชุม ก่อนที่จะมีการโหวต ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านบางส่วนเดินออกจากห้องประชุมไป แต่บางส่วนยังคงอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดบัตรแสดงตน ซึ่งนายชวนแจ้งว่าองค์ประชุมมี 240 เสียง ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม และขอปิดการประชุมสภาฯ ในเวลา 11.25 น.