โต้แรง “อุ๊” หฤทัย เชียร์ลุง ดีกว่านักเลือกตั้ง “เหี้..” ยุคนี้ไม่มี “เผด็จการ” มีแต่เสรีภาพ

“อุ๊” หฤทัย แรงมาแรงไป โต้ถูกหาเชียร์ลุง เลียท็อปบู๊ท ดีกว่าพวกมาจากเลือกตั้ง แต่เหี้ย เย้ยยุคนี้ไม่มีเผด็จการ มีแต่เสรีภาพ ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ออกมาโชว์โง่

วันนี้(26 พ.ย.62)เฟซบุ๊ก หฤทัย ม่วงบุญศรี โพสต์ข้อความได้รุนแรงดุดัน สวนทางอารมณ์ศิลปินของเธออย่างมากว่า

โถๆๆๆหาว่า กูเชียร์ลุง เพราะเชียร์ทหาร เลียท็อปบู๊ท กูอยากจะบอกว่า ใครทำดีกับประเทศชาติกูเชียร์ทั้งนั้นแหละ ดีกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแต่เหี้ยยยยยยย ทำเหี้ยกับประเทศชาติแล้วยังหน้าด้่าน ยุคนี้ไม่มีเผด็จการหรอก ไอ้พวกโง่งงงงงงง

ประเทศไทยมีแต่เสรีภาพ ไม่งั้นพวกมึงจะออกมาโชว์โง่กันได้ขนาดนี้รึ!!

ก่อนหน้านี้ เธอก็เคยออกมาโพสต์ถึงกรณีการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อย่างร้อนแรงเช่นกัน เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 ระบุว่า

ยกเลิกบริษัท แต่ไม่ได้ไปจดแจ้งเลิกบริษัท ขายหุ้นบริษัทแต่ขาดหลักฐานสำคัญการขาย เพิกเฉยกับเช็ครับเงิน เพราะภรรยาท่านยุ่งเลี้ยงลูกและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในครอบครัว ว่าต้องเป็นภรรยาท่านคนเดียวเท่านั้นที่สามารถขึ้นเงินรับเช็คได้ ในขณะนั้นคุณก็กำลังจะสมัครแข่งขันในสนามการเลือกตั้ง

เรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้ายึดติดที่ธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวว่าต้องเป็นภรรยาเท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากคะ ที่ผิดพลาดด้วยตัวท่านเอง

กฎในบ้านท่านว่าสำคัญ แต่กฎหมายของประเทศก็สำคัญเช่นเดียวกัน คุณเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองนะ การนำของคุณภายใต้นโยบายเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในประเทศ

คุณเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง คุณต้องถูกตรวจสอบเรื่องข้อกฎหมายทุกเรื่อง แม้แต่เวลาพูดคำพูดก็ต้องถูกตรวจสอบเช่นเดียวกัน แม้แต่การถ่ายรูปคู่กับบุคคลก็ยังเป็นเรื่อง(กรณี โจชัว หว่อง เป็นต้น) เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่เรื่องสำคัญเหล่านี้คุณไม่รู้

คุณจะทำงานการเมืองได้อย่างไร คุณจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร ในเมื่อการพูดการแสดงออก ล้วนชักนำความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในประเทศชาติ และพูดแต่ละครั้งชักนำเภทภัยมาให้ตัวเอง

คุณควรพิจารณาว่า ประเทศชาติก็เหมือน ครอบครัว ถ้าคนในครอบครัวเกิดความขัดแย้งก็ต้องส่งผลกระทบกับคนในบ้าน ถ้าบ้านสงบ เราสามัคคีกัน พึงพากัน สนับสนุนกันให้ทำมาหากิน เหมือนบรรพบุรุษของคุณ เติบโตมาได้ เพราะว่าความรู้ความสามารถและบวกกับความมีเสถียรภาพบนแผ่นดินไทยด้วย

ในภาพรวมประเทศไทยมีข้อดี มีสิ่งที่วิเศษสุดๆมากมายกว่าหลายๆประเทศ ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกัน ตามยุคสมัย พร้อมๆกับความมั่นคงของประเทศชาติ

เอาเรื่องการพัฒนาประเทศก่อนไหม? เอาเรื่องปัญหาปากท้องของคนไทยก่อน เอาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นที่รัฐสภาต้องให้ความสำคัญก่อนไหม

คนไทยก็ตามด่ารัฐบาลที่คอรัปชั่นมาทุกยุคทุกสมัย นักการเมืองก็ควรทำหน้าที่ตรวจสอบให้ประชาชนด้วย

ทหารวันหนึ่งก็ต้องกลับกรมกองของเค้า คนไทยไม่ยอมให้ใครมาผูกขาดประเทศหรอก คนไทยมีศูนย์รวมน้ำใจ ทำให้ผ่านปัญหาความขัดแย้งได้ ยกตัวอย่าง เช่น เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเป็นต้น

คนเราถ้าคิดจะทำงานการเมือง ถ้าลงเล่นแบบนี้ ไม่น่ารอด ถ้าเก่งจริง ต้องเอาตัวให้รอด เพราะมันจะพิสูจน์ว่าคุณนำพา ประเทศชาติให้รอดพ้นวิกฤติได้

เเต่นี้ ตัวเองยังเอาไม่รอดแล้วถ้าคุณเป็นผู้นำประชาชนไม่ตายตามคุณไปด้วยหรือคะ?

จุดอ่อนของคุณคือ ใจของคุณเอง ที่ใจร้อนเกินไป จะเป็นจะทำ อะไร จะเอาให้ได้ คนถ้าจะเป็นผู้นำประเทศต้อง คิดทุกอย่างก่อนพูด ไม่ใช่พูดทุกอย่างที่คิด

สุดท้าย การออกมาประกาศว่า ยอมตายในคุก เป็นการพิสูจน์ว่า คุณคือคนที่นำตัวเองเข้าสู่จุดอับ ทั้งๆที่มีทางรอดมากมาย อนาคตก็มีแต่ยอมตายซะงั้น ตกลงเป็นเบี้ยในสนามการเมืองหรือ งั้นคุณก็ไม่ใช่ตัวจริงแล้วละ เสียดายจุดยืนคุณโฟกัสที่จะทำลายฝ่ายตรงข้ามอยู่จุดเดียว แต่ไม่มองภาพรวม คือชาติ ผลประโยชน์รวมกันของชาติ องค์รวมของประเทศขาติ นั้นสำคัญที่สุด ที่คุณมองข้าม จำไว้นะคุณธนาธร

เออแถมอีกเรื่อง จุดอ่อนคุณคือ ที่ปรึกษาคุณนะแหละ ไม่เก่งมาก อ่อนด้อยมาก นำพาหายนะ ตอนนี้คุณไม่เชื่อหรอก แต่ตอนที่คุณถูกเค้าเมินเฉยเพราะหมดประโยชน์เมื่อไหร่คุณอาจจะคิดได้


โพสต์ขนาดนี้ สาวกพรรคส้มหวานไม่ “กรี๊ด” หนักมาก ก็ใจเย็นเกินล่ะ

ย้อนไปอีกวัน (21 พ.ย.62) เฟซบุ๊ก หฤทัย ม่วงบุญศรี ก็โพสต์เกี่ยวกับ “เสรีภาพ” ในประเทศไทย เทียบกับต่างประเทศได้อย่างน่าสนใจ

โดยระบุว่า เมืองในฝันที่นักการเมืองชอบยกมาหลอกเด็ก แท้จริงแล้วไม่มีหรอก มีแต่ขูดรีดภาษีอย่างหนัก การมีเสรีทางธุรกิจก็ไม่มี มีระเบียบขั้นตอนที่บีบบังคับมาก

ดูอย่างโพสต์ของคุณเสมา ขุนศึกรักสถาบัน ที่ยกตัวอย่างให้พวกเราเห็นข้อเท็จจริงกัน เพื่อให้รู้ว่าประเทศไทยนั้นมีเสรีภาพในการใช้ชีวิตมากกว่าที่อื่นในโลก มีความสุขกว่ากันเยอะ

ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก เสมา ขุนศึกรักสถาบัน ที่เธออ้าง โพสต์เอาไว้เมื่อ วันที่ 20 พ.ย.62) ระบุว่า

คนที่ไม่รู้เรื่องความเป็นอยู่ในตปท.อย่างลึกซึ้ง จะไม่มีวันรู้หรอก ว่าในปท.ที่เรามองว่าเจริญแล้ว ภาษีแรงมาก ทุกอย่างที่เป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ล้วนเก็บหมดคุมเม็ดเงินเข้าออกทุกเม็ด ใช้เงินสดซื้ออะไรแพงเรียกทันที สวัสดิการโรงหมอที่คนบ้านเราฝันอยากมี ต้องปางตายครับ นี่อธิบายแบบเบื้องต้นนะครับ

เอาไปคิดว่า เขาสงบจริง แต่มันเป็นเรื่องกลไกที่คนในบ้านเขายอมรับ เขาไม่ต้องการมีปัญหา แต่พอมันผ่านไป สิ่งที่เขาทำได้คือบ่น หลายคนย้ายตัวเองไปอยู่ต่างประเทศ เพราะมีช่องทางไป ด้วยมีภรรยาเป็นต่างชาติ ซึ่งเสรีกว่าเยอะ โดยเฉพาะแผ่นดินไทย มีเงินจ่ายได้เลย ไม่ต้องง้อต้องรออย่างบ้านเขา ที่จ่ายหนักไป ก็ไม่คุ้มกับการได้มา.. รู้กันไหม?

สรุปให้ครับ สวัสดิการเรียนฟรี หมอฟรี มีจริงอย่างที่เข้าใจ แต่มันก็ยังมีเรื่องชนชั้น ผิวสี นี่คือเนื้อใน ที่จะมีซักกี่คนที่จะเข้าใจ แต่งตัวดีไปทำงานก็ถูกมอง เหน็บแนมถามนั่นนี่ ทั้งที่เราขยันกว่าเขา มีเงินที่จะใช้จ่าย เผือกซิครับ เรื่องแบบนี้รู้กันไหม ก็ไม่ ?

คลื่นโทรทัศน์ทุกบ้านต้องจ่าย จะฟังเอฟเอ็ม เอเอ็มก็ต้องจ่าย ซึ่งเขาเรียกระบบแด็ป หน้าหนาวเปลี่ยนยางรถที่เป็นตะปู ในฐานะทำลายพื้นผิวถนนต้องจ่าย ขับรถในเส้นทางที่เพิ่มขึ้นมา วิ่งผ่านก็ต้องจ่าย ทั้งที่เราไม่ได้เรียกร้องให้สร้าง

ทุกอย่างที่พูดมา อาชีพนักการเมืองในบ้านเขา จะระดับชาติหรือท้องถิ่น ได้รับข้อยกเว้นทั้งหมด สิํทธิ์พิเศษยิ่งกว่าบ้านเรา แม้ในโรงอาหาร อาหารจานนึงก็จ่ายครึ่งเดียว คนนอกจ่ายเต็ม.. รู้กันไหม?

ผมพูดในฐานะคนสองแผ่นดินด้วยใจครับ มันมีอะไรอีกมากมาย ที่พวกคุณไม่เข้าใจหรอกว่าคนอย่างพวกเราที่ขาหนึ่งเหยียบอีกแผ่นดินหนึ่ง อีกขาเหยียบอีกแผ่นดินหนึ่ง มันเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่คุณเห็นคือเปลือก รู้กันไหม?

จงภาคภูมิใจเถอะ ที่เรามีแผ่นดินไทย ต่างประเทศเหมาะเฉพาะท่องเที่ยวได้ครับ

ยังมีอีกมาก ว่างๆจะลากมาเพื่อให้ฟังเป็นยากษัยครับเพื่อนพ้องน้องพี่

สำหรับ “อุ๊” หฤทัย ม่วงบุญศรี เป็นนักร้องชาวไทย อดีตนักร้องนำของวง เปเปอร์แจม ซึ่งเคยมีผลงานเพลงในปี พ.ศ. 2540 ต่อมาได้มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวอีกหลายชุด มีบทเพลงที่โด่งดัง เช่น ไม่รักดี, แค่หลับตา, จะภาวนา, ตำนานคนโชคดี และเคยได้รับรางวัล สีสันอะวอร์ดส์ ในฐานะศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม ...

“อุ๊” หฤทัย มีความสนใจการเมืองมานานแล้ว ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 เคยเข้าร่วมชุมนุม และถูกจับคุมขังนาน 2 วัน 1 คืน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว

ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นสมาชิกสภาเขตพระโขนง (ส.ข.)...(ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

จึงไม่แปลก ที่โพสต์ความเห็นทางการเมืองของเธอไม่ธรรมดา แม้จะร้อนแรง แต่ก็แฝงเอาไว้ซึ่งความจริงทางการเมืองที่ยากปฏิเสธ และอย่างคนที่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง