“อยู่โคตรเป็น” ขี้ประจบประแจงกลับกลอก “หม่อมเต่านา” จวก “ปิยบุตร”

'หม่อมเต่านา' โพสต์ตบหน้า “ปิยบุตร” ฉาดใหญ่ “อยู่โคตรเป็นและอย่างขี้ประจบประแจงกลับกลอก” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า “ปิยบุตร” เคยรณรงค์แก้ ม.112

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เฟซบุ๊ก Taona Sonakul ของ ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือ 'หม่อมเต่านา' บุตรสาวหม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งมีจุดยืนทางการเมืองแตกต่างบิดา

โพสต์ข้อความ พร้อมแปะรูป นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่มีข้อความว่า “เราไม่ใช่พวกล้มเจ้า แต่ต้องการให้ไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นพระประมุข อย่างแท้จริง

ไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้แอบอ้างในทางการเมือง” ลงชื่อนายปิยบุตร

โดยข้อความ “หม่อมเต่านา” ระบุว่า

“..มึงไปอยูที่ไหนมาถึงจะมาดัจจริตว่า เขียนแบบนี้ทำแบบนี้เรียกว่าอยู่ไม่เป็น #แถวบ้านกูเรียกว่าอยู่โคตรเป็นและอย่างขี้ประจบประแจงกลับกลอกดัวยซ้ำ..”

ย้อนไปเมื่อ 4 ก.ค.62 'หม่อมเต่านา' เคยแชร์รูปภาพนายปิยบุตร พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า "แชร์แปะไว้..เพื่อจะดูโหงวเฮ้ง นายปิยบุตร ภาพล่าสุดเฉยๆค่ะ

นี่คือภาพล่าสุดใช่ไหมค่ะ??? ไม่ใช่ภาพจากแฟ้มภาพอะไรใช่ไหมค่ะ?? ภาพล่าสุด คือเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา?

ก็คือประมาณ แปด วันมาแล้ว.. รบกวนใครมีภาพช่วงเดือน กรกฎาคม แล้ว หรือยิ่งภาพวันนี้ 4 ก.ค นี้ ..เลยก็ยิ่งดี ส่งมาให้เราดูหน่อยจะขอบคุณมากค่ะ.. ได้หน้าตรงด้วยยิ่งดีค่ะ แต่ถ้าหน้าตรงเลยไม่มีภาพประมาณนี้ก็ได้ค่ะ..ขอบพระคุณค่ะ... อ้อ ถ้าได้ภาพเดี่ยวหน้าตรงแบบไม่มีคนอื่นติดมาจะดีที่สุดค่ะ ภาพขาวดำใช้ไม่ได้ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ

ม.ล.มิ่งมงคล โพสต์ด้วยว่า "ถึงจะเป็นถ่าน จงเป็นถ่านที่ให้ "ความร้อน" สะใจ ดีกว่าเป็น"เพชร"ที่คนสงสัยว่าทำไมเหมือน "เพชรปลอม""


ต่อมา เมื่อวันที่ 15 ก.ค.62 หลังจาก “ปิยบุตร” โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงแนวทาง การแก้อำนาจของ คสช.ระบุว่า แม้ คสช.จะสลายไป แต่วิญญาณของ คสช. ยังคงอยู่ ในรูปกฏหมายต่างๆ ที่ทำให้ประเทศไม่อาจกลับคืนสู่สภาวะปกติ ไม่เป็นประชาธิปไตย/ พรรคอนาคตใหม่ นำเสนอ นโยบาย จัดการ "มรดกบาป" ไว้ ระหว่างการหาเสียง ที่ทำได้โดยกลไกของสภาผู้แทนราษฎร เริ่มที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก จำเป็นต้องรณรงค์ให้สังคมเกิด "ฉันทามติ" ว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญ กดดันให้ถอดอำนาจ เลือกนายกรัฐมนตรี ของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง /เสนอร่างรัฐธรรมนูญ เพิ่มหมวดว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติขั้นตอนสุดท้าย

ถัดมาต้องจัดการกับประกาศ คำสั่ง คสช.แม้หัวหน้า คสช. พึ่งใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งยกเลิก แต่มีประกาศ คำสั่งอีกหลายฉบับที่กระทบสิทธิมนุษยชน ต้องเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้เสนอญัตติด่วนนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว อยู่ในระเบียบวาระการประชุม จากนั้นยังต้อง ทบทวน พ.ร.บ.ที่ออกโดย สนช. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สนช. ได้ตรา พ.ร.บ.ขึ้นจำนวนมาก หลายฉบับมีเนื้อหาที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชน มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และออกมาโดยเร่งรีบ ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีการอภิปรายท้วงติงอย่างรอบด้าน จึงจำเป็นต้องนำ พ.ร.บ.เหล่านี้ มาพิจารณาทบทวน เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป /

ที่สำคัญอีกเรื่องต้องลบล้างผลพวงรัฐประหาร โดยประกาศให้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 57 มาตรา 48 เรื่อง การนิรโทษกรรมให้กับรัฐประหารเสียเปล่า ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นและไม่เคยมีผลในทางกฎหมาย เพื่อให้การรัฐประหาร ปี 57 มีความผิดฐานกบฏผู้ก่อการรัฐประหาร จึงถูกดำเนินคดี ทั้งหมดนี้ คุณปิยบุตร ยอมรับว่า พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.81 คนและเป็นฝ่ายค้าน ทำให้มีข้อจำกัด แต่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ทำอะไรเลย การผลักดันในสภา อาจไม่สำเร็จ แต่ก็ต้องพยายามทำ และพรรคอนาคตใหม่จะพยายามทำให้ถึงที่สุด

ปิยบุตร โพสต์ก่อนคสช.จะหมดหน้าที่ หลังการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณวันที่ 16 ก.ค.62

ต่อมา 20 ก.ค. 62 'หม่อมเต่านา' โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Taona Sonakul ถึงกรณีจะจัดการล้างมรดปบาปของคสช.

โดยระบุว่า "เราเกรงแต่ว่าบาปมรดก วาทกรรมของนายปิยบุตรเอง.. จะย้อนมาจัดการกับนายปิยบุตร ก่อนมรดกบาปของคนอื่นหนะค่ะ"

สำหรับ ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือ ‘หม่อมเต่านา’ ถือว่าเป็นขวัญใจ ‘คนเสื้อแดง’ อีกคนหนึ่ง

เนื่องจาก ในช่วงรัฐบาล ‘นารีขี่ม้าขาว’ ชื่อของ ‘หม่อมเต่านา’ ถือเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจ ‘คนเสื้อแดง’ ลำดับต้น ๆ และมีบทบาทเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่ไม่น้อย ?

ตามประวัติม.ล.มิ่งมงคล เป็นบุตรคนโตของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กับคุณรัชนี คชเสนี ซึ่งเป็นพี่สาวต่างมารดาของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ จบการศึกษาด้านภาพยตร์จาก สถาบันศิลปะ ซานฟรานซิโก สหรัฐอเมริกา เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ รวมถึงเป็นช่างภาพอิสระ

ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ‘หม่อมเต่านา’ เริ่มเข้ามาวิพากษ์แวดวงการเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไรก็ดีหากนับตั้งแต่ช่วงที่ ‘Social Media’ โด่งดัง คือตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ‘หม่อมเต่านา’ เป็นหนึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญในการให้กำลังใจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ถูกฝ่ายค้าน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน หรือนักวิชาการ ออกมาโจมตีผลงาน และนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์

เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลายครั้งในลักษณะค่อนข้าง ‘เผ็ดร้อน’ หรือแม้แต่พูดถึง ม.ร.ว.จัตุมงคล บิดาของตัวเอง ในเชิงลบ จนทำให้เกิดเป็นกระแส ‘Talk of the town’ อยู่นานเช่นกัน

คำพูดของ ‘หม่อมเต่านา’ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในทางการเมืองมากที่สุดคำพูดหนึ่ง และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูจนถึงปัจจุบันคือ “รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักในหลวงจนเสียสติ” เมื่อปี 2555 ที่ส่งผลให้ชื่อของ ม.ล.มิ่งมงคล ขจรขจายไกลไปทั่วยุทธจักรโลกออนไลน์แทบจะทันที

กระทั่งเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ‘หม่อมเต่านา’ ก็เป็นเพียงหนึ่งในขวัญใจคนเสื้อแดงไม่กี่คน ที่ไม่เคยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกปรับทัศนคติแม้แต่ครั้งเดียว แตกต่างจาก ‘เซเลป’ คนเสื้อแดงคนอื่นที่ชะตากรรมต่างตกอยู่ในค่ายทหาร

แม้ภายหลังการรัฐประหาร ชะตากรรมของ ‘ยิ่งลักษณ์’ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ ‘หม่อมเต่านา’ ก็ยังคงให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาโดยตลอด เห็นได้จากที่มาศาลฎีกาฯ ในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวอยู่แทบทุกครั้งที่มีการนัดไต่สวน... (สำนักข่าวอิศรา 09 ธ.ค.59)

โพสต์ของ 'หม่อมเต่านา' ครั้งนี้ จึงเหมือนตอกย้ำให้เห็นทาสแท้ของ “ปิยบุตร” ชัดขึ้น ว่า อยู่.ไม่.เป็น. หรือ อยู่โคตรเป็นกันแน่!