นายกฯ ชื่นชมทุกฝ่ายติดตามโบราณวัตถุกลับสู่ไทยสำเร็จ พร้อมขอบคุณการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ แนะบันทึกประวัติศาสตร์-เผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชน ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ยุติสร้างความแตกแยกจากประเด็นประธานอาเซียนในปีหน้า
วันนี้ (4 ส.ค.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยที่ได้ร่วมกันติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ กลับคืนสู่ประเทศไทย โดยล่าสุด สหรัฐฯ ได้ส่งคืนโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ 12 ชิ้น จากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จ.อุดรธานี ให้แก่รัฐบาลไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อยู่ในความครอบครองของสตรีอเมริกันรายหนึ่ง
นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าใจและให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งโบราณวัตถุกลับมายังประเทศไทย รวมถึงเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีบทบาทสนับสนุนให้การดำเนินการสำเร็จลงด้วยดี
“นายกฯ เน้นย้ำว่า การส่งคืนโบราณวัตถุครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่ควรบันทึกไว้ และเผยแพร่องค์ความรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนให้ได้รับทราบถึงความเป็นมาและขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ รวมทั้งควรนำโบราณวัตถุเหล่านี้ไปจัดแสดง เพื่อให้คนไทยได้เห็นถึงคุณค่าและภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่าของประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังเตรียมงาน หรือดำเนินการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศชิ้นอื่นๆ อยู่ในขณะนี้ เช่น ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว พระโพธิสัตว์ไมเตรยะสำริด พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรมสำริด เศียรพระพุทธรูปหินทราย นาคปักหินทราย แผ่นทองคำดุนลวดลาย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐฯ โดยขอให้ภารกิจที่ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้โดยเร็ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้าด้วยว่า การทำหน้าที่ประธานอาเซียนเป็นเรื่องของประเทศไทย และคนไทยทุกคน ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าหลังการเลือกตั้งแล้วจะได้รัฐบาลชุดใด วันนี้จึงไม่อยากให้จุดประเด็นสร้างความแตกแยกในสังคม